ไทยพีบีเอส แกะรอยคดีค้าเสือข้ามชาติ โดยพบว่าจากหนึ่งใน 3 กลุ่มที่เรียกกันว่า เสี่ยจึก กลุ่มนี้ถูกจับตามองถึงศักยภาพในการเคลื่อนย้ายสัตว์ป่าอย่างมาก
เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า เขามีสายสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีอำนาจ จนสามารถกำหนดโควตาสัตว์ป่าได้ แม้จะมีการปราบปรามจากฝั่งไทย แต่ก็ยังอยู่ได้ เพราะเติบโตถึงขั้นเปิดฟาร์มเสือเป็นของตัวเอง
ขบวนการค้าสัตว์ป่าในลาวมีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ กลุ่มนี้มีนายทุนชื่อ วิชัย เป็นคนลาว กลุ่มนายทุนชาวเวียดนาม มีฐานอยู่ที่เมืองหลักซาว มีนายทุนชื่อเจ๊คิม หรือ กิม เป็นชาวเวียดนาม ที่มาตั้งรกรากในลาว และกลุ่มเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน มีเสี่ยจึก และ ภรรยาชาวลาว เป็นเจ้าของ ในช่วงแรก ทั้งสามกลุ่มร่วมทุนกัน แล้วแบ่งงานกันทำงาน
โต้โผใหญ่จะเป็นกลุ่มของเสี่ยจึก เนื่องจาก สนิทสนมกับผู้นำประเทศในขณะนั้น จนสามารถขอโควต้าค้าสัตว์ป่าชนิดต่างๆได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการนำเข้า ส่งออก สัตว์ป่าและสัตว์แปลก จะต้องพึงพาโควต้าของเสี่ยจึก และ ภรรยาทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่สุนัขที่ส่งจากไทยไปเวียดนาม
แต่การที่ไทยบังคับใช้กฏหมายคุ้มครองสัตว์อย่างจริงจัง ทำให้ไม่สามารถค้าสัตว์บางชนิดที่ต้องนำเข้าจากประเทศไทยได้ทั้งสุนัข และ ตัวนิ่ม ทั้งสองกลุ่มได้รับผลกระทบ จนต้องถอนหุ้น
ตรงข้ามกับการทำธุรกิจของเสี่ยจึก ที่มีฟาร์มเพาะเลี้ยงเสือ มีบริษัทรองรับการค้าไปยังจีนโดยเฉพาะ และหากเสือที่เลี้ยงไว้โตไม่ทัน ก็จะนำเข้าจากประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่อ้างว่า มาจากวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และสวนเสือต่างๆ