กกต.เปิดเวทีชี้แจงข้อปฏิบัติกฎหมายใหม่พรรคการเมือง

วันนี้ (28 มี.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจแนวทางปฏิบัติของพรรคการเมือง ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีพรรคเก่าทั้งหมด 55 พรรค ทั้งพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์  ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา รวม 308 คน เข้าร่วมรับฟังการชี้แจง เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) พรรคการเมือง และคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ว่าแต่ละพรรคสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง ในช่วงก่อนที่จะมีการปลดล็อกพรรคการเมือง

นอกจากประเด็นปัญหาในทางปฏิบัติจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ยังมีข้อหารือจากพรรคการเมืองอื่นด้วย ทำให้ กกต. รับฟังทุกข้อเห็นต่างและพร้อมเสนอให้ คสช.พิจารณาปรับแก้คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560  หนึ่งในข้อกังวลของหลายพรรคการเมืองคือเรื่องกรอบเวลา 30 วันเวลาที่คำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 กำหนดไว้ในการจ่ายค่าสมาชิกพรรคอาจไม่สามารถดำเนินการได้ท่วงทัน ก่อนการประชุมชี้แจง ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้หารือกับนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. และนายแสวงบุญมี รองเลขาธิการ กกต. ถึงแนวทางรองรับ กรณีสมาชิกสามารถรักษาสถานะได้ 4 ปี หากไม่ได้จ่ายค่าสมาชิกพรรค เพราะเนื้อหาคำสั่ง คสช.ไม่ได้กำหนดเจตนารมณ์ไว้

 

 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แม้สมาชิกจะไม่จ่ายค่าบำรุงพรรคการเมือง แต่สามารถรักษาสถานะได้อีก 4 ปี ซึ่ง คำสั่งคสช. ไม่ได้กำหนดเจตนารมณ์ไว้ว่า คนกลุ่มนี้จะต้องพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหรือไม่ จึงอยากให้มีข้อยุติวันภายในวันนี้"

นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ชี้แจงบนเวทีว่าก่อนหน้านี้ที่ได้หารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย มีแนวโน้มว่าจะมีการแก้ไขคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560

นายศุภชัย ใจสมุทร ยังเชื่อมั่นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. จะทำตามที่ให้สัญญาไว้ ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562 และจะหาทางออกสำหรับปัญหาที่กำลังเกืดขึ้นนี้ได้

 

 

เปิดปฏิทินกิจการพรรคการเมือง

ปฏิทินการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองที่ กกต.จัดทำขึ้นนั้นอยู่ภายใต้หลักการคำสั่งหัวหน้า คสช. ด้วยหลักความเท่าเทียม และหลักความสงบเรียบร้อย และไม่ขัดต่อคำสั่งของ คสช.ทั้ง 3 ฉบับ คือ คำสั่งที่ 57/2557 , คำสั่งที่3/2558 ,คำสั่งที่53/2560 และจนกว่าจะมีคำสั่งปลดล็อกพรรค การเมืองจาก คสช.ห้ามพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ดำเนิน 4 กิจกรรม ประกอบด้วย การจัดประชุมใหญ่พรรคการเมือง การจัดตั้งสาขา การจัดตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด และการประชุมสมาชิกพรรคการเมือง แต่สามารถขออนุญาต คสช. ผ่าน กกต.ได้

เริ่มตั้งแต่การส่งหนังสือยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคพร้อมจ่ายค่าบำรุงในวันที่ 1 เม.ย.นี้ หากไม่ดำเนินการภายใน 30 วัน ถือว่าพ้นสภาพการเป็นสมาชิก  การจัดหาทุนประเดิมพรรค 1 ล้านบาท และต้องหาสมาชิกไม่น้อยกว่า 500 คนภายใน 180 วัน 5,000 คนภายใน 1 ปี และให้ได้ 10,000 คนภายใน 4 ปีพร้อมชำระค่าบำรุงพรรค

ซึ่งสภาพบังคับหากพรรคดำเนินการไม่ครบถ้วนตามกฎหมายกำหนดและขอขยายเวลาแล้ว "พรรคการเมืองนั้นจะสิ้นสภาพลง"และหากตั้งสาขาไม่ครบ 4 สาขาก็ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ รวมถึงไม่ได้รับเงินอุดหนุนพรรคด้วย

นอกจากนี้นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ เรียกร้องให้รัฐบาล และคสช. ยกเลิกคำสั่งที่57/2557 พร้อมขอให้ยกเลิกกระบวนการไพรมารี่โหวต เนื่องจากจะเป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้ง พร้อมเสนอวันเลือกตั้งให้เกิดขึ้นวันที่ 30 ธ.ค.นี้