วันนี้( 24 เม.ย.2561) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยตอบปฏิเสธทั้ง 2 เรื่องกระแสดูดนักการเมืองเข้าพรรค และการใช้เงิน 4 หมื่นล้านบาทเพื่อตั้งพรรคทหาร หรือพรรคคสช. ซึ่งถือเป็นการให้สัมภาษณ์ด้วยอารมณ์ที่แตกต่างจากการพบศิลปินวง BNK48
"ผมบอกแล้วว่า ผมไม่ใช่เครื่องดูดอากาศ หรือเครื่องดูดฝุ่น เพราะฉะนั้นต้องไปดูว่าข้อกล่าวหาที่ว่า คสช. หรือรัฐบาลนี้จะไปบังคับคนนั้น คนนี้ บังคับนักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชน ผมจะเอาอำนาจอะไรไปบังคับเขาเหล่านั้น”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้ทุกคนไปใช้คำดังกล่าว ตามที่นักการเมืองพูดออกมา เพราะการที่จะกล่าวว่าใครดูดใคร ก็ต้องไปดูว่า ผลงานของพรรคการเมืองของเขาที่ผ่านมาเป็นอย่างไร มีการดูแลสมาชิกพรรค ส.ส.ทุกคนมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น และนำความต้องการของประชาชนไปสู่การขับเคลื่อนของพรรคหรือไม่ ในขณะที่พรรคอื่นเป็นรัฐบาล หรือไม่ได้เป็น ได้ให้ความสำคัญกับสมาชิกที่เป็นลูกพรรคหรือไม่แค่ไหน หรือให้ความสำคัญไม่เพียงพอ เข้าใจว่านักการเมืองทุกคนก็อยากเข้ามาเพราะนโยบายหัวหน้าพรรค
ขณะเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ ยังปฏิเสธการใช้เงิน 4 หมื่นล้านบาท ตั้งพรรคการเมือง หรือใช้อำนาจ และสถานะรัฐมนตรี ติดต่อภาคธุรกิจ เพื่อประโยชน์ทางการเมือง โดยระบุถึง การบริหารราชการแผ่นดิน ด้วยความโปร่งใส ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น และยึดหลักธรรมาภิบาล
ก่อนจะย้ำว่าจะพิจารณาข้อกฎหมายต่างๆ พร้อมพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาอ้างอิงดำเนินคดี กับผู้กล่าวหาให้ร้าย จนเสื่อมเสียชื่อเสีย รวมถึงสื่อและสำนักพิมพ์ต่างๆ ที่นำมาเผยแพร่
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงชี้แจงการแต่งตั้งนายสนธยา คุณปลื้ม เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อดูแลการขับเคลื่อนนโยบายในภาคตะวันออก และให้คำมั่นถึงการลงพื้นที่ ตามกำหนดวาระครม.สัญจรจังหวัดสุรินทร์ และบุรีรัมย์ จะพบปะพูดคุยกับทุกคนต่อหน้าประชาชน ไม่เลือกที่รโหฐาน ไม่ปกปิด ซ่อนเงื่อน หรือมีนัยยะ ที่มุ่งหวังทางการเมือง
และวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงปฏิเสธที่จะชี้แจงความชัดเจน กรณีจะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือที่ปรึกษา ให้กับพรรคการเมืองที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และบุคคลใน คสช.กำลังเดินหน้าจัดตั้งขึ้นหรือไม่ และกล่าวย้ำหลายครั้งว่า ไม่รู้ ไม่รู้ ตรงไหนก็ตรงนั้น