วันนี้ (15 พ.ค.2561) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการติดตามกลไกการปกป้องคุ้มครองสัตว์ของ สนช.กล่าวว่า จากรายงานผลการศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการปัญหาลิงในพื้นที่วิกฤต ซึ่งคณะอนุกรรมการได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมทั้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการศึกษาวิจัยในมิติต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง
พบว่า ปัญหาพิพาทระหว่างคนกับลิง รวมทั้งความเดือดร้อนรำคาญที่เกิดจากลิงในขณะนี้ขยายไปในหลายพื้นที่มากกว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ แต่ในพื้นที่ที่ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤตและจำเป็นจะต้องมีการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยทันที มีอยู่ทั้งสิ้น 12 จังหวัด ได้แก่ จ.ลพบุรี กระบี่ ชลบุรี ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ภูเก็ต มุกดาหาร สตูล สระบุรี อำนาจเจริญ และเขตบางขุนเทียน กทม. ทั้งนี้พบว่ามีลิงอยู่ไม่น้อยกว่า 100,000 ตัว โดย ลิงแสม เป็นลิงที่สร้างปัญหารบกวนประชาชนมากที่สุด
พบข้อมูลถิ่นอาศัยหาย-ทับซ้อนที่อยู่คน
ข้อมูลผลการสำรวจของสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ พบสาเหตุที่ทำให้ลิงและคนเริ่มมีข้อพิพาทและมีปัญหาความเดือดร้อนรำคาญต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากลิงนั้น มาจากที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติเดิมของลิงถูกรุกล้ำหรือคุกคาม โดยเฉพาะการสร้างที่อยู่อาศัยหรือเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ในรูปแบบต่างๆ บางพื้นที่ก็เป็นลักษณะพื้นที่ที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติเดิมของลิงถูกล้อมรอบ หรือทับซ้อนด้วยพื้นที่ของชุมชน มีผลทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไป ไม่มีอาหารตามธรรมชาติเพียงพอ ลิงต้องเข้าไปในชุมชนเพื่อหาอาหาร มีการเข้าไปรื้อหรือทำลายทรัพย์สินในบ้านเรือน หรือบางครั้งก็มีการทำร้ายคนด้วย โดยเฉพาะในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีการให้อาหารลิงจนทำให้พฤติกรรมของลิงเบี่ยงเบนไป และที่สำคัญคือจำนวนประชากรของลิงที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกพื้นที่ ซึ่งมีผลทำให้การควบคุมดูแลเป็นไปได้โดยยาก
สำรวจเกาะห่างไกลสร้าง "นิคมลิง”
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวคิดเกี่ยวกับ ”การสร้างนิคมลิง” เพื่อใช้เป็นสถานที่รองรับลิงบางส่วนที่จำเป็นจะต้องย้ายออกมาจากพื้นที่ ถือเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่จำเป็นจะต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เนื่องจากจำนวนประชากรลิงที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้กับชุมชนได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว มีผลทำให้ปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมากมายเป็นเงาตามตัว การย้ายลิงบางส่วนออกไปไว้ในนิคมลิงจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจำนวนลิงส่วนเกิน และลิงที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวสร้างปัญหาความเดือดร้อนหรือมีข้อพิพาทกับประชาชน โดยก่อนการโยกย้ายจะมีการทำหมันและพิจารณาเกี่ยวกับสวัสดิภาพลิงอย่างรอบด้าน
เบื้องต้นจากการศึกษา จ.กระบี่ ตรัง สตูล ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี และภูเก็ต มีเกาะตามธรรมชาติที่อยู่ห่างไกลชายฝั่งรวมทั้งสิ้น 191 เกาะ แต่จะต้องพิจารณาเกี่ยวกับปัจจัยความพร้อมของระบบนิเวศที่ลิงจะสามารถอยู่อาศัยได้ โดยมีการพิจาณาทั้งในเรื่องของพืชอาหาร แหล่งน้ำ แหล่งหากินทางทะเล และปัจจัยคุกคามการดำรงอยู่ของลิงอันเกิดจากมนุษย์และสัตว์ป่า
จ.ภูเก็ต ได้ทำการศึกษาเสร็จสิ้นไปแล้ว 5 เกาะ ได้แก่ เกาะงำ เกาะปายู เกาะมาลีหรือมะลิ เกาะแพ และเกาะทะนาน ส่วนที่ จ.สตูล ก็ได้ดำเนินการสำรวจแล้วที่เกาะโกยใหญ่ โดยเกาะทุกแห่งที่ผ่านการสำรวจแล้วสามารถนำไปสร้างนิคมได้ต่อไป ส่วน จ.ลพบุรี ซึ่งไม่มีพื้นที่เกาะก็ได้มีการศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้พื้นที่บริเวณเขาพระยาเดินธง เขาสมโภชน์ และเขาเอราวัณ เพื่อสร้างเป็นนิคมลิงโดยวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) จะมีการสัมมนาทางวิชาการเกี่ยวกับเรื่องนี้