ครอบครัวที่มีเด็กเล็กจะสัมผัสได้ว่าช่วง 2 -3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเด็กป่วยกันบ่อย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่ไปโรงเรียนหรือสถานที่รับเลี้ยงเด็ก อาการที่พบมีตั้งแต่ไข้หวัด ไอ จาม ไข้หวัดใหญ่ มือเท้าปาก และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ส่งผลให้หลายโรงเรียนต้องปิดเรียนเพื่อฆ่าเชื้อทำความสะอาด และเด็กหลายคนต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล
นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค เปิดเผยวันนี้ (16 ส.ค.2561) ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางระบาดวิทยาในช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งพบแบบนี้เสมอในทุกๆ ปี โดยเดือน ส.ค.-ก.ย.จะเป็นช่วงที่เด็กป่วยสูงสุด และป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ และโรคไข้เลือดออก
โรคมือเท้าปาก มีรายงานยอดผู้ป่วยในทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค.2561 มีผู้ป่วย 36,000 คน ร้อยละ 80-90 จะเกิดขึ้นกับเด็กเล็ก
มือเท้าปาก เป็นโรคที่ติดจากเชื้อไวรัส ติดจากทางเดินอาหาร น้ำลาย กลุ่มเสี่ยงคือกลุ่มเด็กเล็ก เด็กวัยนี้จะเล่นด้วยกัน แล้วมักจะหยิบของเข้าปาก จึงมีโอกาสจะรับเชื้อได้ โดยเฉพาะเมื่อเพื่อนป่วย
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ มีรายงานยอดผู้ป่วยในทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค.2561 มีผู้ป่วย 150,000 คน ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มเด็กเล็กประมาณ 49,000 คน
โรคไข้เลือดออก มีรายงานยอดผู้ป่วยในทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค.2561 มีผู้ป่วยเกือบ 50,000 คน เสียชีวิตแล้ว 40 คน กลุ่มที่ป่วยส่วนใหญ่คือเด็ก
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยังเป็นจำนวนใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ถือว่าสถานการณ์ของโรคยังปกติ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ยังไม่ผิดปกติ เพียงจำนวนจะเพิ่มขึ้นในเดือน ส.ค.-ก.ย.เพราะเป็นช่วงปลายฝน เชื้อโรคยังเป็นกลุ่มเดิม
นพ.อัษฎางค์ แนะนำวิธีดูแลบุตรหลานเพื่อป้องกันการติดเชื้อว่า ต้องหัดให้เด็กๆ ล้างมือบ่อยๆ และแยกภาชนะกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน หลีกเลี่ยงพาเด็กไปที่ชุมชนหรือที่แออัด เช่น ตลาด ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ที่มีคนเยอะ เมื่อเด็กป่วยต้องหยุดเรียนและฝึกให้ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อไม่ไปแพร่เชื้อให้คนอื่นหรือไปรับเชื้อเพิ่ม
การใส่ผ้าปิดปาก จมูก เป็นการรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ทำให้เพื่อนร่วมที่ทำงาน เพื่อนร่วมบ้านหรือคนใกล้เคียงป่วยไปด้วย ควรให้เด็กฝึกใส้ไว้ ผ้าปิดปาก จมูกมีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งกันเชื้อโรคและฝุ่นละออง ผ้าจะช่วยกรองให้อากาศสะอาดระดับหนึ่งก่อนเข้าสู่ร่างกาย