วันนี้ (27 ส.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีกำหนดเพิ่มการระบายน้ำ 5 วัน จากวันละ 43 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็น 53 ล้านลูกบาศก์เมตร ระหว่างวันที่ 23-27 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุด นายไววิทย์ แสงพาณิชย์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ ได้ส่งหนังสือไปยังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาญจนบุรี เพื่อแจ้งเรื่องขอขยายเวลาการระบายน้ำเขื่อนวชิราลงกรณเป็นกรณีพิเศษ โดยจากการติดตามสถานการณ์น้ำที่ไหลเข้าเขื่อน พบว่ามีปริมาณฝนตกเหนือเขื่อนจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้ระดับน้ำในเขื่อนมีความเหมาะสม จึงขอขยายเวลาการระบายน้ำต่อไปจนถึงวันที่ 3 กันยายน ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ฝนที่ตกเหนือเขื่อน ทำให้แต่ละวันมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากกว่า 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ขณะนี้มีปริมาณน้ำอยู่ 8,150 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 92 ของความจุอ่าง
สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำแควน้อยมีระดับสูงขึ้น โดยเฉพาะบริเวณสวนสาธารณะ เทศบาล ต.ทองผาภูมิ ระดับน้ำยังคงเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ริมน้ำอย่างต่อเนื่อง เทศบาลต้องนำเอาเชือกมากั้นไว้ เพื่อความปลอดภัย ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ ขณะนี้มีน้ำอยู่ร้อยละ 90 ของความจุอ่าง โดยวันนี้มีแผนระบายน้ำออกประมาณ 22 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์ยังคงสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีก โดยไม่เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงและปลอดภัยของตัวเขื่อน
ส่วนสถานการณ์เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีกวันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 567 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 109 โดยมีการแจ้งเตือนหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ติดตามสถานการณ์น้ำใน 3 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร, บึงกาฬ และนครพนม อย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น จากการระบายน้ำที่เพิ่มขึ้น
ส่วนเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มีแนวโน้มน้ำไหลเข้าเขื่อนลดลง ปัจจุบันปริมาณน้ำ 755 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 106 นอกจากเขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนน้ำอูน และเขื่อนแก่งกระจาน ยังมีเขื่อนที่มีน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างอยู่อีก 3 แห่ง คือเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก, เขื่อนปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี