วันนี้ (18 ก.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะรัฐมนตรีมีมติผ่าน ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน หลังมีการอ้างเหตุผลว่าปัจจุบันการทำเกษตรกรรมพึ่งพาสารเคมีอย่างมาก ทำให้ได้ผลผลิตที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและมลพิษทางสิ่งแวดล้อม
นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ ครม.เห็นชอบในหลักการร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งเป็นกลไกที่จะผลักดันเรื่องเกษตรยั่งยืนให้บรรลุผลในการปฏิบัติได้จริง ตามแผนนั้นประเทศไทยต้องมีพื้นที่เกษตรยั่งยืนอย่างน้อย 5 ล้านไร่ ภายในปี 2564 แต่ปัจจุบันไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ทางสภาเกษตรกรแห่งชาติ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และภาคประชาชน ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผลักดันร่างกฎหมายนี้
ทั้งนี้ พ.ร.บ.ดังกล่าว ไม่มีผลกระทบโดยตรงกับกลุ่มที่ทำการเกษตรโดยใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือเกษตรเชิงเดี่ยว แต่นโยบายของประเทศจะเพิ่มทางเลือกให้กับเกษตรกรที่ต้องการปรับเปลี่ยนจากการเกษตรที่ใช้สารเคมี หรือการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ให้หันมาทำการเกษตรที่คำนึงถึงสุขภาพประชาชนและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพิ่มมูลค่าผลผลิต
ที่ผ่านมารัฐมักส่งเสริมการเกษตรเชิงเดี่ยว เช่น ปลูกข้าวโพดอาหารสัตว์ ที่มีงบประมาณให้ 1,000 ต่อไร่ สิทธิการกู้เงินดอกเบี้ยต่ำ การผ่านร่าง พ.ร.บ.นี้ จึงเป็นโอกาสที่เกษตรกรจะปรับตัวไปสู่เกษตรยั่งยืน ลดการใช้สารเคมี ดีต่อผู้บริโภค
ส่วนกลุ่มคัดค้าน เช่น กลุ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ อาจกังวลว่าพื้นที่เกษตรของประเทศจะเปลี่ยนเป็นเกษตรยั่งยืน 5 ล้านไร่ อาจกระทบต่อปริมาณของผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์
การเลือกปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หรือเกษตรอินทรีย์ เป็นสิทธิของเกษตรกร