พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สอบปากคำหนึ่งให้ผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดี กรณีการเสียชีวิตของของ น.ส.ภาณุมาศ แซ่แต้ วัย 41 ปี หลังจากติดอยู่ภายในรถยนต์ขณะขับรถจมน้ำลึกประมาณ 2 เมตร บริเวณทางลอดอุโมงค์ทางรถไฟ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2561 ภายหลังที่ฝนตกลงมา
จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรทางน้ำและทางเทคนิค สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อธิบายว่า อุโมงค์ทั่วไปจะต้องมีระบบสูบน้ำและบ่อรับน้ำ แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าบ่อรับน้ำมีตะกอนทรายที่ขังอยู่ ไม่พบมวลน้ำที่ไหลเข้ามา จึงสันนิษฐานว่าท่อสูบน้ำอาจรั่ว จึงทำให้น้ำไม่ได้ถูกระบายออก เป็นเหตุให้น้ำท่วมขังใต้อุโมงค์
พล.ต.ต.สมพงษ์ เปิดเผยว่า ได้แจ้งข้อหาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่กระทำความผิดเป็น 2 ส่วนคือ ข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทั้งหมด 5 คน คือ นิติบุคคลของหมู่บ้าน ที่ขออนุญาตการรถไฟทำอุโมงค์ทางลอด 2 คน เนื่องจากไม่มีการบำรุงรักษาอุโมงค์ หรือซ่อมแซม ปล่อยปละละเลยทำให้มีผู้เสียชีวิต และพนักงานรักษาความปลอดภัย 3 คน เพราะก่อนเกิดเหตุมีรถของผู้เสียหายหนึ่งคันจมน้ำติดภายในอุโมงค์ โดยที่พนักงานรักษาความปลอดภัยรู้อยู่แล้ว แต่กลับไม่มีการแจ้งเตือนผู้เสียชีวิตที่ขับรถเข้ามา ขณะนี้วันนี้ (30 ก.ย.) มีผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว 3 คน อีก 2 คนจะเดินทางเข้าพบในวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.)
อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง แนะนำว่า แนวทางการแก้ปัญหาเบื้องต้นหากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ควรหมั่นตรวจระบบสูบน้ำในอุโมงค์เป็นประจำ หรือนำอุปกรณ์มาติดตั้งแจ้งเตือนทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำขังในขั้นอันตราย
จากการสำรวจยังพบว่าในกรุงเทพมหานคร มีอุโมงค์ลักษณะนี้ไม่น้อยกว่า 10 แห่ง เมื่อบริหารจัดการระบบสูบน้ำได้ ทำให้ลดความเสี่ยงของผู้ที่ใช้รถใช้ถนน