ปะการังพัง-ชายหาดทรุด เหตุผลปิดฟื้นฟู "อ่าวมาหยา"

กรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประกาศขยายระยะเวลาปิดการท่องเที่ยว หรือดำเนินกิจกรรมในบริเวณอ่าวมาหยาและอ่าวโละซามะ ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา -หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ตั้งแต่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา จนกว่าทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่งจะกลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างไม่มีกำหนด

วันนี้ (4 ต.ค.2561) นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช กล่าวว่า ในช่วงที่ปิดอ่าวมาหยา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ มาแล้ว 4 เดือน กรมอุทยานฯ และนักวิชาการได้เข้าฟื้นฟูทรัพยากรที่ได้รับความเสียหายจากการท่องเที่ยวในอดีตก่อนปิด

อ่าวมาหยา ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวมานานแล้ว ทั้งปะการังที่แตกหักเสียหายจากเรือที่เข้ามาจอดหน้าอ่าว จำนวนนักท่องเที่ยวที่แออัดหน้าอ่าวมาหยา ทำให้เกิดการทรุดตัวของชายหาดอย่างหนัก

การปลูกป่าชายหาดหน้าอ่าวมาหยา

 

ขณะนี้ได้เริ่มปลูกไม้ป่าชายหาด เพื่อช่วยลดการพังทลายของสันทราย ที่เกิดการทรุดตัวเนื่องจากชาย หาดต้องรองรับนักท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละ 3,000-4,000 คนในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ทรายหน้าหาดของอ่าวมาหยาไม่สามารถเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล เพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเหยียบย่ำบนหาดทรายตลอดทั้งปี ส่งผลให้ทรายไหลลงสู่ทะเล และขัดขวางกระบวนการเพิ่มทรายหน้าหาดตามธรรมชาติ จากคลื่นที่พัดเข้าชายหาด

เผยปะการัง-ชายหาดทรุดตัวเหตุคนย่ำหลายพัน

เช่นเดียวกับปะการังที่จุดกลางอ่าวมาหยา ที่พบอยู่ในระดับที่เสื่อมโทรมมาก ปะการังแตกหักจากสมอเรือ และมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้น้อยมาก แต่ในช่วงที่มีการนำไปปลูกและฟื้นฟูแล้ว บางส่วนพบสัญญาณการแตกกิ่งออกมา หากมีการเปิดให้เข้ามาท่องเที่ยวและเหยียบย่ำก็จะเกิดความเสียหายทั้งหมด

นอกจากนี้ยังมองว่า ต่อไปการท่องเที่ยวในอ่าวมาหยา ยังต้องทำท่าเรือลอยน้ำเพื่อลดการเดินเหยียบย่ำ รวมทั้งขอความร่วมมืองดใช้ครีมกันแดด เพื่อไม่ให้กระทบกับปะการังที่เพิ่งปลูกด้วย

 

อ่าวมาหยา หลังปิด 4 เดือน

 

นายทรงธรรม กล่าวว่า ข้อเสนอปิดอ่าวมาหยา 4 เดือนเป็นผลจากการประชุมร่วมของผู้ประกอบการ และนักวิชาการที่ศึกษาผลกระทบเรื่องนี้ แต่เมื่อเราลงมือฟื้นฟูไปแล้วบางส่วน และหากปล่อยให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเหมือนเดิม ทรัพยากรจะไม่ได้รับการฟื้นฟู และต้องปิดต่อ

เราแจ้งล่วงหน้ามาเป็นปี และไม่ได้ปิดทุกแห่งของเกาะพีพี แต่ยังมีอื่นๆรองรับ ไม่อยากให้มารุมแต่ที่อ่าวมาหยา จุดเดียว เพราะในเดือนธ.ค.นี้เมื่อผลการศึกษาขีดความสามารถรองรับแต่ละจุดออกมาแล้วก็จะจำกัดคนต่อจุดท่องเที่ยว เพื่อให้ทรัพยากรหยุดพักฟื้นฟู  

ถ้าจะยิ่งมีความสวยงามเราขายแพงได้มากขึ้น ตอนนี้ต้องถามกลับไปยังผู้ประกอบการว่าอยากให้แหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมาตรฐานสวยงามไว้นานๆหรืออยากให้พังจนไม่สามารถฟื้นฟู

ภาพชายหาดอ่าวมาหยา

 

ชี้นักท่องเที่ยวพุ่งทะลุเกิน 1 ล้านคน 

นอกจากนี้นายทรงธรรม กล่าวว่า มีตัวอย่างของการปิดเกาะยูง ซึ่งเป็นข้อเสนอของดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ พบว่า 2 ปีที่ผ่านมาปะการังที่เกาะยูงมีการฟื้นตัวดีมาก และถือเป็นเคสที่ต่างชาติให้ความสนใจว่าพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่เกิดผลกระทบจากการท่องเที่ยว แต่รัฐบาลไทยยอมปิดเพื่อให้ทรัพยากรกลับคืนสภาพ 

ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีระหว่างปี 2557 - 2561 พบว่าไม่ได้ลดลงหรือมีผลกระทบจากการปิดอ่าวมาหยา

ปี 2557 มีนักท่องเที่ยวจำนวน 143,555 คน
ปี 2558 มีนักท่องเที่ยวจำนวน 333,613 คน
ปี 2559 มีนักท่องเที่ยวจำนวน 1,731,573 คน
ปี 2560 มีนักท่องเที่ยวจำนวน 1,990,649 คน
ปี 2561 มีนักท่องเที่ยวจำนวน 1,877,871 คน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ทวงถามผู้ว่าฯ กระบี่ "ปิดอ่าวมาหยา" ไร้กำหนดกระทบขายทัวร์