วันนี้ (12 พ.ย.2561) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอพกินส์ และองค์กรเซฟ เดอะ ชิลเดรน ระบุว่า ในช่วง 10 ปีข้างหน้า เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มากกว่า 10.8 ล้านคนทั่วโลก อาจเสียชีวิตจากโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ ในจำนวนนี้คาดว่าผู้เสียชีวิตจะอยู่ในประเทศไนจีเรียและอินเดียประมาณ 1.7 ล้านคน ขณะที่ปากีสถานและคองโกจะมีเด็กเสียชีวิตอีกประเทศละประมาณ 6-7 แสนคน โดยในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ส่วนมากโรคปอดบวมมักเกิดกับผู้สูงอายุ
ขณะที่ในประเทศกำลังพัฒนา โรคนี้มักพบในเด็ก ซึ่งปัจจุบันแต่ละปีจะมีเด็กนับแสนคนเสียชีวิตจากโรคดังกล่าว ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย และเด็กที่อ่อนแอจากการขาดสารอาหารมักมีอัตราการเสียชีวิตสูง สถิติจากปี 2559 พบว่าภายในปีเดียวมีเด็กมากกว่า 8.8 แสนคนทั่วโลกเสียชีวิตจากโรคปอดบวม โดยส่วนมากเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
การเปิดเผยผลวิจัยครั้งนี้มีขึ้นเนื่องในโอกาสวันปอดบวมโลก ตรงกับวันที่ 12 พฤศจิกายนของทุกปี เพื่อสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับความรุนแรงของโรคปอดบวมและการป้องกันรักษาที่ทำได้ไม่ยาก หากตรวจพบโรคตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หากมีการกระจายวัคซีนและยาปฏิชีวนะราคาถูกอย่างทั่วถึง รวมทั้งแก้ปัญหาการขาดสารอาหารได้สำเร็จ อาจจะช่วยรักษาชีวิตเด็กได้มากถึง 4.1 ล้านคน