วันนี้ (25 ม.ค.62) จากกรณีที่ นายเอกวิชช์ เกษเจริญ ลูกค้าธนาคารกรุงไทย สาขาสวรรค์วิถีและปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ได้ร้องเรียนว่าถูกปลอมลายมือชื่อในเอกสารประกอบการถอนเงินจำนวนกว่า 8 ล้านบาท
ธนาคารกรุงไทยชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวลูกค้าได้ยื่นฟ้องธนาคารในคดีแพ่งต่อศาลชั้นต้น ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิจารณาและมีคำพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 25 ก.ค.60 ต่อมาลูกค้าได้ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาและมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 3 ก.ค.61
ขณะนี้นายเอกวิชช์ เกษเจริญ ได้ยื่นฎีกาและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ซึ่งเมื่อศาลมีคำพิพากษาเป็นเช่นใด ธนาคารน้อมรับปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เนื่องจากศาลได้วินิจฉัยตามพยานเอกสารและหลักฐานต่างๆ รวมทั้งพยานบุคคลที่คู่ความทั้ง 2 ฝ่ายนำสืบพยานแสดงต่อศาล ซึ่งทุกฝ่ายไม่ควรล่วงละเมิดคำตัดสินของศาล
ที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทย ได้ชี้แจงกระบวนการตรวจสอบและให้ข้อมูลกับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง และให้คำมั่นใจว่าธนาคารกรุงไทย ไม่เคยละเว้นการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดต่อธนาคาร ทั้งนี้ ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ธนาคารยึดมั่นในการปฏิบัติงานตามหลักบบรรษัทภิบาล ดำเนินงานอย่างมืออาชีพ ด้วยความซื่อสัตย์และโปร่งใส ให้บริการลูกค้าตามแนวทางของหลัก Market Conduct