เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนใน จ.เชียงใหม่ เริ่มใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันตัวเองจากฝุ่นละออง หลังค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในอากาศเพิ่มสูงขึ้น จากหมอกควันที่เกิดจากการเผาไหม้ ขณะที่ประชาชนบางส่วนยอมรับว่า ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับฝุ่นPM 2.5
รศ.เศรษฐ์ สัมภัตตะกุล หัวหน้าศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบัน จ.เชียงใหม่ มีค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน เพิ่มขึ้นจนเกินค่ามาตรฐานที่ 50 มคก./ลบ.ม. ในหลายพื้นที่แล้วและถือว่าอยู่ในระดับสูงและอันตรายสำหรับคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เพราะหากสะสมในร่างกายในปริมาณมากอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้ ขณะเดียวกันมาตรฐานอากาศที่ประเทศไทยใช้ยังกำหนดค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานไว้สูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว
นายสมชาย ทรงประกอบ กล่าวว่า ปัจจุบันมีเครื่องมือที่สามารถวัดค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ทั่วประเทศแล้ว เพื่อให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญและอันตราย ขณะเดียวกันได้เตรียมศึกษาเพื่อสร้างมาตรฐานการวัดค่าฝุ่นละอองให้เท่ากับระดับสากลที่ประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ใช้เป็นมาตรฐาน
สำหรับประเทศไทยได้กำหนดค่ามาตรฐาน ของ PM2.5 กำหนดไว้ไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. แต่สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา กำหนดค่ามาตรฐาน PM 2.5 ไว้ไม่เกิน 25 มคก./ลบ.ม. เท่านั้น
ก่อนหน้านี้กรมควบคุมมลพิษได้แนะนำประชาชนให้ใช้หน้ากากอานามัย แบบ N95 เนื่องจากสามารถป้องกันมลพิษที่มีคุณสมบัติอนุภาคขนาดเฉลี่ย 0.3 ไมครอน ได้มากกว่าร้อยละ 95 กรองฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนได้หรือใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดมาปิดจมูกและปาก เพื่อช่วยกรองฝุ่นละอองได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีประชาชนจำนวนมากที่ยังไม่ตระหนักถึงอันตรายในระยะยาว