ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

พร้อมเจอกัน 2 ผู้นำ "ทรัมป์-คิม" หารือปลดอาวุธนิวเคลียร์

ต่างประเทศ
27 ก.พ. 62
13:11
334
Logo Thai PBS
พร้อมเจอกัน 2 ผู้นำ "ทรัมป์-คิม" หารือปลดอาวุธนิวเคลียร์
การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐอเมริกากับผู้นำเกาหลีเหนือ ที่ประเทศเวียดนามในวันนี้ (27 ก.พ.) ประเด็นหลักคือการเจรจาเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้ส่งเจ้าหน้าที่กว่า 20 คนไปติดตามการประชุมอย่างใกล้ชิด

วันนี้ (27 ก.พ.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้นำสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือจะพบกันที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นการพบกันครั้งที่ 2 หลังจากที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 2561 ซึ่งประเด็นหลักของการหารือยังคงเป็นเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางเข้าพบและร่วมหารือทวิภาคีกับนายเหวียน ฝู จอง ประธานาธิบดีเวียดนาม ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงฮานอย พร้อมกล่าวชื่นชมว่าเวียดนามเป็นประเทศตัวอย่างที่พัฒนาก้าวหน้าจากการเปลี่ยนแปลงความคิด และขอบคุณที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้

โดยทรัมป์ยังได้ระบุผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า อนาคตของเกาหลีเหนือจะดีเยี่ยม หากคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เห็นชอบที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้มากกว่าครั้งไหนๆ ในประวัติศาสตร์

 

สำหรับกำหนดการของวันนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่แน่ชัด แต่มีรายงานว่าคิมและทรัมป์จะหารือแบบสองต่อสองในช่วงบ่ายวันนี้ หรือเย็นวันพรุ่งนี้ ก่อนจะร่วมรับประทานอาหารค่ำอย่างไม่เป็นทางการกับคณะที่ปรึกษาของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นร้านอาหารที่มีชื่อว่า "เปียงยาง" ซึ่งเป็นร้านอาหารของรัฐบาลเกาหลีเหนือที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก

ส่วนการประชุมอย่างเต็มรูประหว่างคณะของผู้นำเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ คาดว่าจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) ที่โรงแรมโซฟิเทล ลีเจนด์ เมโทรโพล คาดว่าผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายจะลงนามในแถลงการณ์และอาจมีการแถลงข่าวร่วมกันถึงการประชุมสุดยอดในครั้งนี้

แม้ว่าประเด็นหลักของการประชุมคือการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ แต่เนื่องจากที่ผ่านมา เรื่องนี้ไม่มีความคืบหน้ามากนัก ความคาดหมายของการประชุมในครั้งนี้จึงอยู่ที่ว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมกันออกมาตรการที่เป็นรูปธรรมที่นำไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ และสหรัฐฯ จะยอมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือหรือไม่

สหรัฐฯ หวังเกาหลีเหนือมองเวียดนามเป็นต้นแบบ

ขณะที่ความสนใจของสื่อมวลชนในครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ประเด็นหลักเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์เท่านั้น แต่ยังมีการจับตามองถึงสถานที่ที่ผู้นำเกาหลีเหนือไปเยือนในเวียดนาม เพราะอาจสะท้อนความสนใจของผู้นำเกาหลีเหนือที่จะยึดเวียดนามเป็นต้นแบบการพัฒนาประเทศ และการที่เวียดนามได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดประชุมก็มีนัยแฝงว่าสหรัฐฯ ต้องการให้ผู้นำเกาหลีเหนือได้เห็นแบบอย่างของการพัฒนาประเทศที่พรรคคอมมิวนิสต์ยังคงกุมอำนาจเอาไว้ได้

ก่อนหน้านี้ คณะทำงานของผู้นำเกาหลีเหนือได้เดินทางไปสำรวจสถานที่หลายแห่ง เช่น อ่าวฮาลองเบย์ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่อยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม ซึ่ง คิม อิล ซุง ปู่ของคิม จองอึน เคยเดินทางเยือนเมื่อปี 2507 ซึ่งคิมอาจจะไปเยือนที่นี่เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยว นอกจากนี้คาดว่าคิมอาจจะเดินทางไปที่โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือของซัมซุง จากเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติที่ลงทุนในเวียดนามมากที่สุด แต่ทั้งนี้เป็นเพียงการคาดเดา ซึ่งการประชุมในครั้งนี้แทบไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของกำหนดการประชุม

แม้ว่าสหรัฐฯ ต้องการให้ผู้นำเกาหลีเหนือได้เห็นแบบอย่างของการพัฒนาประเทศให้เศรษฐกิจก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดีกินดี ในขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์ยังสามารถครองอำนาจไว้ได้ แต่แผนการนี้จะสำเร็จหรือไม่อาจต้องติดตามท่าทีของผู้นำเกาหลีเหนือหลังจากนี้ต่อไป

จีนอวยพรประชุม 2 ผู้นำประสบความสำเร็จ

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยว่า รัฐบาลจีนได้ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการคมนาคมให้ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือและคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูง ระหว่างการเดินทางด้วยรถไฟผ่านจีน เพื่อมุ่งหน้าไปยังเวียดนาม โดยตั้งความหวังว่าการประชุมสุดยอดผู้นำเกาหลีเหนือ-สหรัฐอเมริกาในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จด้วยดี

นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม แสดงจุดยืนพร้อมสนับสนุนการประชุมอย่างเต็มที่ เพื่อให้การพูดคุยระหว่างผู้นำสหรัฐอเมริกากับผู้นำเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จและสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นบนโลก

ผู้เชี่ยวชาญชี้เกาหลีเหนือยังเป็นภัยคุกคาม

ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือให้การต่อคณะอนุกรรมาธิการด้านการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ว่า ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือไม่ได้ลดน้อยลง นับตั้งแต่การประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ที่สิงคโปร์ เมื่อเดือน มิ.ย.2561

นายบิล ริชาร์ดสัน อดีตหัวหน้าคณะผู้แทนถาวรสหรัฐอเมริกาประจำองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า ผู้นำสหรัฐอเมริกาไม่ควรยื่นข้อแลกเปลี่ยนที่จะยุติสงครามเกาหลี จนกว่าเกาหลีเหนือจะยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง

หลังจากโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะประกาศยุติสงครามในทางเทคนิค ซึ่งดำเนินมานานกว่า 60 ปี พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือระหว่างกัน รวมทั้งการดำเนินโครงการด้านการท่องเที่ยว

ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้ส่งเจ้าหน้าที่มากกว่า 20 คนไปยังกรุงฮานอย และเปิดศูนย์สื่อมวลชนเกาหลีใต้ ซึ่งเชื่อมต่อกับศูนย์สื่อมวลชนนานาชาติ เพื่อติดตามการประชุมครั้งนี้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังจัดการหารือกับนักวิชาการเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวด้วย

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"คิม จองอึน" นั่งรถไฟถึงเวียดนาม พร้อมร่วมประชุมสุดยอดผู้นำ

ชาวเกาหลีใต้-ผู้แปรพักตร์เตือนสหรัฐฯ อย่าหลงกล "คิม จองอึน"

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง