วันที่ 15 เม.ย.62 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการพูดถึงรัฐบาลแห่งชาติ ว่า ถ้าพิเคราะห์ถึงที่มาและผู้เสนอจะเห็นถึงกลุ่มบุคคลหรือฝ่ายที่มีเสียงไม่มั่นคง จึงพยายามเสนอและชี้นำให้สถานการณ์ไปสู่การมีรัฐบาลพิเศษ แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วสถานการณ์จะไม่ถึงทางตัน แม้จะเห็นต่างในกฎ-กติกา แต่ก็กำลังเดินหน้าไปสู่ทิศทางเดียวกัน
ตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญนั้น ผู้เขียนได้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ไว้แล้ว โดยเฉพาะประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลผสม หรือผลลัพธ์ของการเลือกตั้งที่จะได้เสียงปริ่มน้ำ และด้วยเหตุผลนี้ จึงมี ส.ว.อีก 250 เสียงที่จะช่วยพยุงสถานการณ์การเมือง ไม่นำไปสู่ความรุนแรง หรือต้องลุกเป็นไฟอย่างที่บางฝ่ายคาดการณ์
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลเลือกตั้งโดยสุดท้ายแล้วแต่ละพรรคการเมืองจะปรับตัวเข้าหากันได้ เพราะไม่มีใครต้องการถอยหลังกลับไปสู่ความวุ่นวาย เห็นต่างและขัดแย้ง หากแต่ต้องการเดินหน้าทำงานเพื่อบ้านเมือง
ทั้งนี้แกนนำพรรคพลังประชารัฐเชื่อว่าสถานการณ์การเมืองยังต้องจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายบริบท แม้แต่การลงสัตยาบันกันแล้ว หรือนโยบายหลักๆของแต่ละพรรค เมื่อเข้ามาร่วมรัฐบาลผสมหลายพรรคการเมือง ก็มีเหตุผลให้ต้องปรับเปลี่ยน ด้วยข้อคำนึงถึงส่วนรวมและเป้าหมายเดียวกัน คือ เรื่องของชาติ-บ้านเมือง
สำหรับข้อเสนอการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติพร้อมรายชื่อนายกรัฐมนตรีคนกล่าง เป็นข้อเสนอของนายเทพไท เสนพงศ์ ว่าที่ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และแก้รัฐธรรมนูญ 2560 โดยมีวาระ 2 ปี จากนั้นให้คืนอำนาจแก่ประชาชน และจัดการเลือกตั้งใหม่
ขณะเดียวกันก็มีกระแสว่าพรรคพลังประชารัฐ ปิดดีลการเจรจาประสานจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ด้วยเสียงที่มากกว่า 251 เสียง โดยหลักๆ มีพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนา หรือแม้แต่พรรคเศรษฐกิจใหม่รวมอยู่ด้วย แต่ล่าสุดมีแถลงการณ์ของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ยังคงปฏิเสธความชัดเจนนี้