วันนี้ (30 เม.ย.2562) สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า นายบัมบัง บรอดโจเนโกโร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนของประเทศ แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ตัดสินใจที่จะย้ายเมืองหลวงออกจากกรุงจาการ์ตา หลังเมืองหลวงซึ่งมีประชากรมากกว่า 10 ล้านคนแห่งนี้ กำลังเป็นหนึ่งในเมืองที่จะจมลงใต้น้ำในอัตราที่เร็วที่สุดในโลก นับเป็น "การตัดสินใจครั้งสำคัญ" หลังประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดที่ตั้งเมืองหลวงแห่งใหม่ อย่างไรก็ตาม สื่อของรัฐบาล รายงานว่า มีแนวโน้มที่เมืองหลวงแห่งใหม่อาจเป็น "เมืองปาลังการายา" ซึ่งเป็นเมืองในจังหวัดกาลีมันตันกลางบนเกาะบอร์เนียว ห่างจากกรุงจาการ์ตาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือหลายร้อยกิโลเมตร
แนวคิดในการย้ายเมืองหลวงของอินโดนีเซียเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง นับตั้งแต่ประเทศได้รับอิสรภาพจากเนเธอร์แลนด์ในปี พ.ศ.2488 โดยผลการสำรวจชี้ว่า กรุงจาการ์ตาเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีสภาพการจราจรแออัดที่สุดในโลก ในปี พ.ศ.2559 ซึ่งรัฐมนตรีต้องมีตำรวจนำขบวนเพื่อช่วยให้เดินทางไปประชุมได้ทันเวลา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนของประเทศ ยังระบุอีกว่า สภาพปัญหาในกรุงจาการ์ตา ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหายถึงปีละ 100 ล้านล้านรูเปียห์ โดยรัฐบาลมีความพยายามที่จะผลักดันโครงการขนาดใหญ่ เพื่อกระจายอำนาจรัฐบาลในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งอำนาจทางการเมืองและทรัพยากรทางการเงินไปสู่ท้องถิ่นต่างๆ มากขึ้น
จาการ์ตาหนึ่งในเมืองที่มีอัตราจมเร็วที่สุดในโลก
ขณะที่นักวิจัย ชี้ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของมหานครแห่งนี้จะจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมดในปี พ.ศ.2593 โดยพื้นที่ทางตอนเหนือของจาการ์ตาทรุดตัวลง 2.5 เมตรในช่วง 10 ปี และจะทรุดลงเรื่อยๆ เฉลี่ย 1-15 เซนติเมตรต่อปี ซึ่งการขุดน้ำบาดาลเพื่อใช้อุปโภคและบริโภคเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ครึ่งหนึ่งของจาการ์ตาอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล
สำหรับผลการประชุม ครม.มีการหารือแนวทางแก้ไขปัญหา โดยสรุป 3 แนวทาง ได้แก่ การสร้างเขตพิเศษ สำหรับหน่วยงานราชการในเมืองหลวงปัจจุบัน การย้ายหน่วยงานรัฐออกจากกรุงจาการ์ตา และแนวทางสุดท้าย คือ การสร้างเมืองหลวงใหม่บนเกาะอื่นตามที่ประธานาธิบดีต้องการมากที่สุด
ด้านประชาชนในเมืองปาลังการายา มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวที่หลากหลาย โดยนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี ระบุว่า เธอหวังว่าเมืองจะพัฒนามากขึ้นและจะมีการยกระดับการศึกษาให้ดีเทียบเท่ากับจาการ์ตา แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับที่ดินและป่าที่ว่างเปล่าซึ่งเป็นเหมือนปอดของโลกและของเรากำลังจะถูกใช้เพื่อการพัฒนา
ทั้งนี้ นายบรอดโจเนโกโร กล่าวว่า กระบวนการย้ายเมืองหลวงนี้อาจต้องใช้เวลานานถึง 10 ปี แต่หากประเทศอื่นสามารถบรรลุเป้าหมายได้ อินโดนีเซียก็ต้องทำได้เช่นกัน
บราซิลย้ายจากริโอ เด จาเนโร ไปยังบราซิเลีย ซึ่งอยู่ระหว่างซิดนีย์และเมลเบิร์น ขณะที่คาซัคสถานย้ายเมืองหลวงของพวกเขาไปใกล้กับศูนย์กลางของประเทศ และเมียนมาก็สามารถย้ายเมืองหลวงไปที่กรุงเนปิดอว์