วันนี้ (28 พ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายความเพื่อประชาชน นำหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบโครงการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลด้วยระบบไบโอเมทริกซ์ กับผู้โดยสารที่จะผ่านเข้าออกสนามบินสุวรรณภูมิ และโครงการรถสายตรวจไฟฟ้าอัจฉริยะของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเงินงบประมาณรวมกว่า 3,000 ล้านบาท
นายษิทรา เปิดเผยว่า สำหรับโครงการไบโอเมทริกซ์ แม้ว่าจะเริ่มเปิดใช้งานไปบางส่วนแล้ว แต่ยังมีปัญหาติดขัด ใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพ ผู้ที่ใช้งานยังพบปัญหาในการใช้งานบ่อยครั้ง รวมทั้งมีการขยายระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างหลายครั้ง และเห็นว่าเอกชนที่มาร่วมประมูลงานจะต้องถูกสั่งปรับเป็นเงินจำนวนมาก เนื่องจากส่งงานไม่ทันตามกำหนดระยะเวลา
ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการรถสายตรวจไฟฟ้าอัจฉริยะของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอีก 260 คัน คันละประมาณ 4 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 900 ล้านบาท ที่ปรับปรุงให้มีระบบไวไฟ ส่วนรถต้องใช้ระบบชาร์จไฟฟ้า โดยจะต้องชาร์จไฟครั้งละ 6 ชั่วโมง ซึ่งการชาร์จไฟต้องมีแท่นชาร์จและสถานีที่ใช้ชาร์จไฟฟ้า และพบว่ายังมีไม่เพียงพอ รวมทั้งตามต่างจังหวัดก็ยังไม่มีอินเทอร์เน็ตที่จะสามารถใช้งานกับรถระบบดังกล่าวได้
ทั้ง 2 โครงการนี้ นายษิทรา ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและนายตำรวจผู้ที่ใช้งานบางส่วนว่าใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงมาร้องเรียนให้สำนักงาน ป.ป.ช.ตรวจสอบโครงการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการจัดซื้อจัดจ้างอย่างถูกต้องและลงทุนกับโครงการนี้คุ้มค่าหรือไม่