วันนี้ (14 มิ.ย.2562) ห้างค้าปลีกติดประกาศแจ้งลูกค้าปรับราคาขายน้ำมันปาล์มบรรจุขวด โดยระบุว่า "เพื่อสนับสนุนนโยบายกรมการค้าภายใน" ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มขนาด 1 ลิตร ที่ก่อนหน้านี้ขวดละ 24 บาท ขยับเป็น 34 บาทต่อลิตร รวมถึงยกเลิกการขายน้ำมันปาล์มยี่ห้อที่ทางห้างผลิตเองแม้จะเพิ่งเริ่มในวันนี้
สำหรับราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นมีผลทันทีต่อแม่ค้า อย่างสุตรัยรัตน์ รุ่งรัศมี เเม่ค้าขายกล้วยทอด ระบุว่า ซื้อน้ำมันวันละ 2 ขวด ต้นทุนน้ำมันปาล์ม เพิ่มขึ้นมาวันละ 20 บาท ทำให้จำเป็นต้องลดจำนวนชิ้นลงจากที่ขาย 15 ชิ้น 20 บาท เป็น 12-13 ชิ้น 20 บาท
ส่วนพันธ์ พรพรหมบุตร เเม่ค้าขายปลาทอด ระบุว่า รู้ล่วงหน้าว่าราคาน้ำมันปาล์มจะปรับขึ้นเมื่อวานนี้ จึงรีบซื้อตุนไว้ 12 ขวด เก็บไว้ใช้ได้ 12 วัน ช่วยทำให้ประหยัดได้ 120 บาท
นอกจากนี้ แม่ค้าส่วนใหญ่ยอมรับกับต้นทุนราคาน้ำมันปาล์มที่สูงขึ้นแต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ต่างรับรู้ว่ากำลังซื้อของลูกค้ามีไม่มาก บางร้านจึงยังยืนยันที่จะขายในราคาเดิม
กรมการค้าภายในแจงลดราคาน้ำมันปาล์มกระทบเกษตรกร
ขณะที่ นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า ราคาปาล์มปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากผลผลิตและสต็อกน้ำมันปาล์มดิบที่ลดลง โดยโรงสกัดรับซื้อผลปาล์มที่กิโลกรัมละ 3 บาท 20 สตางค์ ถึง 3 บาท 50 สตางค์ ขณะที่ลานรับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 3 บาท โดยราคาผลปาล์มที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ราคาน้ำปาล์มดิบหรือน้ำมันปาล์มซีพีโอ ปรับตัวจากกิโลกรัมละ 14-15 บาท มาอยู่ที่กิโลกรัมละ 19บาท50สตางค์ถึง20 บาท
เมื่อนำไปผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดจะทำให้ราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 34-35 บาท แต่พบว่า มีห้างค้างปลีกบางแห่งขายในราคาต่ำกว่าทุน ที่ขวดละ 25-26 บาท จึงขอความร่วมมือให้ขายในราคาที่สะท้อนต้นทุน
ทั้งนี้ อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า การทำโปรโมชั่นสามารถทำได้ แต่ต้องไม่ลดราคาจำหน่าย เพราะจะกระทบต่อราคาที่เกษตรกรจะขายได้ และเกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน ซึ่งอาจผิดกฎหมายว่าด้วยการแข่งขันทางการค้า
ด้าน ศาสตราจารย์สกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า ระบุว่า การส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าในราคาต่ำกว่าต้นทุน เป็นพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่ปกติ การส่งเสริมการขายควรทำในระยะสั้น เช่น 1-2 สัปดาห์
กรณีที่ห้างค้าปลีกค้า ส่งเสริมการขายน้ำมันพืชปาล์มต่ำกว่าต้นทุนต่อเนื่อง อาจเป็นความผิดตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้า และอาจเข้าข่ายกรณีที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจเหนือตลาด จะมีความผิดตามมาตรา 50 มีโทษทั้งจำและปรับ