วันนี้ (1 ส.ค.62) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า การเพิ่มผลิตภัณฑ์สลากและเพิ่มช่องทางการขายสลากดังกล่าว จะเป็นการส่งเสริมการมอมเมาประชาชนให้ลุ่มหลงในอบายมุขที่ผิดศีลธรรมทางศาสนา ให้กลายเป็นสิ่งที่ยอมรับได้โดยผลของกฎหมายซึ่งเป็นตราบาปที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในอดีต ได้จัดทำกฎหมายนี้ขึ้นมา โดยที่สลากกินแบ่งรูปแบบเดิมก็เป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมที่ถูกกฎหมาย ที่รัฐบาลควรที่จะควบคุมให้เข้มงวด โดยเฉพาะการขายให้กับเด็กเยาวชน มากกว่าที่จะส่งเสริมโดยการที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่
การที่รัฐบาลจะใช้ช่องทางหารายได้ด้วยวิธีการนี้ ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลเริ่มถังแตก หมดปัญญาที่จะหารายได้เข้ารัฐด้วยวิธีการอื่น ซึ่งรัฐบาลที่ดีต่างมุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการหารายได้จากภายนอกประเทศ การค้าการขาย และการท่องเที่ยวเป็นหลัก ไม่ใช่การมอมเมาหาเงินจากประชาชน โดยเฉพาะคนยากคนจนที่กลายเป็นผู้ที่นิยมการเล่นหวย
ที่สำคัญรัฐบาลควรหยุดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นมากกว่าการหารายได้ด้วยวิธีการนี้ เช่น หยุดการซื้อเรือดำน้ำ หยุดการซื้อรถถังสไตรเกอร์ หยุดการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ หยุดการขึ้นเงินเดือนให้ ส.ส. และ ส.ว. หยุดการรับเงินเดือนหลายทางของทหารบางคน
ชี้โอกาสถูกน้อย-ขัด รธน.
นายศรีสุวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลไม่ได้บอกความจริงกับประชาชนว่าการออกสลากรูปภาพ 12 นักษัตร มีโอกาสที่จะถูกรางวัลทั้งตรงและสลับรวมได้เพียง 24 รูปแบบ จาก 20,736 รูปแบบจากการคำนวณมีอัตราถูกรางวัลจะมีเพียงประมาณ 0.115% เท่านั้น และไม่ว่าผู้ซื้อจะมากหรือน้อยเท่าไร มูลค่ารางวัลก็ยังคงเป็น 10,000 บาทต่อรางวัลเสมอ
การออกสลากฯ เป็นการละเมิดสิทธิของประชาชนและสังคม ขัดต่อหลักนิติธรรมและหลักศาสนา และเป็นบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา อันขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2560 ม.25 ม.31 ม.43(1) ม.46 และ ม.67 จึงเป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคนที่ไม่เห็นด้วยกับการออกสลากใหม่ดังกล่าว จะสามารถใช้สิทธิตาม ม.43(3) ประกอบ ม.50(1) ในการคัดค้านการดำเนินการดังกล่าวของสำนักงานสลากฯ และรัฐบาล รวมทั้งการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อระงับการใช้อำนาจดังกล่าวได้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง เคาะ “สลากรูปภาพ 12 นักษัตร” ง่ายไม่ซับซ้อน