เมื่อวานนี้ (22 ส.ค. 2562) หน่วยงานอิสระที่ดูแลด้านการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีเมียนมาของสหประชาชาติ (The UN Fact-Finding Mission on Myanmar) เปิดเผยรายงาน ระบุถึงความรุนแรงทางเพศที่ทหารเมียนมากระทำต่อผู้หญิงและเด็ก ในช่วงที่มีการกวาดล้างชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญา เมื่อปี 2017 พร้อมทั้งกล่าวหารัฐบาลเมียนมาว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการตรวจสอบและลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
สมาชิกของหน่วยงานอิสระดังกล่าว เปิดเผยว่า ทหารเมียนมามีการทำงานอย่างเป็นระบบ หลังจากบุกเข้าไปในหมู่บ้านชาวโรฮิงญา โดยมีการข่มขืนและบังคับกระทำชำเราผู้หญิงและเด็ก ก่อนที่จะเผาทำลายหมู่บ้านของพวกเขา ส่งผลให้ชาวโรฮิงญาอพยพไปบังกลาเทศมากกว่า 730,000 คน การกระทำเหล่านี้เข้าข่ายละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชน ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ขณะที่เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) ความพยายามในการส่งตัวผู้อพยพชาวโรฮิงญา 3,450 คน จากบังกลาเทศกลับเข้าไปในเมียนมาไม่เป็นผล เนื่องจากไม่มีผู้อพยพชาวโรฮิงญาแม้แต่คนเดียว ยอมขึ้นรถที่ทางการจัดเอาไว้ให้สำหรับเดินทางกลับเมียนมา