วันนี้ (9 ก.ย.2562) ตัวแทนประชาชนจากพื้นที่ปัญหาที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย สถานะบุคคล และชุมชนชาติพันธุ์ในเขตป่า รวมถึงกลุ่มปัญหาต่าง ๆ ภายใต้การเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ เคลื่อนขบวนจากบริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติ ถนนราชดำเนิน ไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือกับตัวแทนรัฐบาล ติดตามความคืบหน้านโยบายประชาชน 9 ข้อ ที่เสนอถึงรัฐบาลเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ("พีมูฟ" ชุมนุมร้องรัฐบาลใหม่เดินหน้านโยบาย 9 ด้าน)
นอกจากนี้ยังมีกรณีปัญหาเร่งด่วน 16 กรณี เช่น การปลูกสร้างสวนป่าคอนสารทับที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ, ชุมชนทับยาง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานะของที่ดินสาธารณประโยชน์, รวมถึงกรณีชุมชนน้ำแดงพัฒนา อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตามแนวทางธนาคารที่ดิน แต่กลับมีชาวบ้าน 8 คน ถูกจำคุกด้วยข้อหาบุกรุกที่ดิน โดยขอให้รัฐมีมาตรการช่วยเหลือด้านการประกันตัวชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดี ขอให้กองทุนยุติธรรมเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
เราดำเนินการแก้ไขปัญหากับทางธนาคารที่ดิน ในการจัดซื้อที่ดินเอกชน แต่พอไม่มีกลไกแก้ไขปัญหา ทางบริษัทเอกชนเดิม ที่ตกลงซื้อที่ดินกัน ก็ดำเนินคดี ชาวบ้านต้องติดคุก ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นฎีกา
นอกจากการแก้ปัญหาเชิงนโยบายและปัญหาเร่งด่วนเป็นรายกรณี พีมูฟยังเสนอให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน เนื่องจากเป็นปัญหาโครงสร้างทางกฎหมาย
การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจน ควรแก้ไขไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางกฎหมายและนโยบาย โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน อันเป็นบทบัญญัติสูงสุดในการบริหารประเทศให้เป็นประชาธิปไตย
แถลงการณ์ของพีมูฟ ระบุว่า ได้ประกาศชุมนุมเครือข่ายทั่วประเทศผลักดันให้ 9 ข้อเสนอเชิงนโยบายได้รับการปฏิบัติ พร้อมเจรจาแก้ปัญหาในระดับพื้นที่ทุกกรณีให้มีรูปธรรม เพื่อเป็นหลักประกันในการแก้ปัญหาระยะยาว ส่วนการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจน ควรดำเนินการไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางกฎหมายและนโยบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพราะปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและความยากจนของประชาชน เกิดจากโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม โดยจะเสนอปัญหาและข้อเสนอ ร่วมทั้งประสานงานกับทุกภาคส่วน เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ
พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลมีความจริงใจในการส่งตัวแทนที่มีอำนาจเต็มมาดำเนินการเจรจา แก้ปัญหาสานต่อความคืบหน้า และสั่งการให้ทุกรายกรณีมีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ขณะที่นายประทีป กีรติเลขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นตัวแทนรัฐบาลรับหนังสือ และเป็นประธานในที่ประชุมหารือ โดยระบุว่า ไม่ต้องการให้ประชาชนลำบากชุมนุมเป็นเวลานาน จึงได้ประสานส่วนราชการมาประชุมเพื่อวางแผนแนวทางแก้ปัญหา ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ (9 ก.ย.) จะมีการแยกหารือ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และการรถไฟแห่งประเทศไทย
ด้านนายไมตรี จงไกรจักร ที่ปรึกษาพีมูฟ กล่าวว่า การชุมนุมและหารือในวันนี้ เป้าหมายที่พีมูฟพอใจ คือมีแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาร่วมกัน มีแนวทางนโยบายที่ชัดเจน เช่น ชะลอ หรือ จะระงับคดีความอย่างไร ทั้งในส่วนของพนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน แนวทางสร้างกลไกติดตามปัญหาร่วมกัน ถ้าไม่ได้ตามนี้ ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้
เราอาจใช้กลไกนี้ เป็นการตั้งต้น ทบทวน สรุป มีแผนงานที่ชัดเจน เพื่อไปคุยต่อกับรัฐมนตรีที่มีอำนาจทางการเมือง มันจึงสามารถไปต่อได้ แต่ถ้าไม่เริ่มก่อนก็ไม่มีโอกาส
สำหรับการชุมนุมของกลุ่มพีมูฟ ได้แจ้งรายละเอียดการแจ้งชุมนุมสาธารณะต่อสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ขอใช้พื้นที่ชุมนุมบริเวณเกาะกลาง หน้าองค์การสหประชาชาติ ตั้งแต่วันที่ 9-18 ก.ย.นี้ ซึ่งหากการหารือไม่เสร็จสิ้นภายในวันนี้ ก็จะชุมนุมต่อ จนกว่าจะมีความชัดเจนจากผู้มีอำนาจเต็มในการสั่งการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"พีมูฟ" ชุมนุมร้องรัฐบาลใหม่เดินหน้านโยบาย 9 ด้าน
"วราวุธ" แจงนโยบายที่ดิน "พีมูฟ" ซัด ถอยหลังกว่ารัฐบาลก่อนๆ
"พีมูฟ" ยื่นหนังสือ ทส.ถามความคืบหน้าแก้ปัญหาป่าไม้-ที่ดิน
พีมูฟจัดเต็ม ขอใช้กลไกสภาฯตั้ง กมธ.นโยบายภาค ปชช.