วันนี้ (30 ก.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย และ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ได้เปิดเผยผลการประชุมพรรคเมื่อวานนี้ (29 ก.ย.2562) ว่าที่ประชุมพรรคมีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อพรรคจาก "พลังไทยรักไทย" เป็น "ไทยรักไทย" และใช้อักษรย่อ "ทรท." โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้เป็นที่จดจำได้ง่ายของประชาชน และเตรียมที่จะไปยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในวันอังคารที่ 1 ต.ค.นี้ เพื่อแจ้งเรื่องการเปลี่ยนชื่อพรรค ก่อนจะปฏิเสธว่าพรรคของตัวเองนั้นไม่ใช่พรรคของนายทักษิณ ชินวัตร
นายคฑาเทพ มั่นใจว่าจะไม่ขัดต่อกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 10 (3) ที่กำหนดว่าการดำเนินการในการตั้งพรรคการเมืองที่ กกต.กำหนดว่า ชื่อ ชื่อย่อ และภาพเครื่องหมายของพรรคการเมือง ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 14 และชื่อต้องไม่ซ้ำ พ้อง หรือคล้ายคลึงกับชื่อ ชื่อย่อ หรือภาพเครื่องหมายของพรรคการเมืองที่จดทะเบียน
แต่มีรายงานข่าวจาก กกต.ว่าฝ่ายกฎหมายได้พิจารณาข้อกฎหมายกรณีดังกล่าวนี้อาจเข้าข่ายขัดต่อ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 110 กำหนดไว้ว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 32 ที่กำหนดว่า ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งไม่ใช่พรรคการเมืองใช้ชื่อ ชื่อย่อ ภาพเครื่องหมายของพรรคการเมือง หรือถ้อยคำในประการที่น่าจะทำให้ประชาชนเข้าใจว่า เป็นพรรคการเมืองหรือใช้ชื่อที่มีอักษรไทยประกอบว่า "พรรคการเมือง" หรืออักษรต่างประเทศซึ่งแปลหรืออ่านว่า "พรรคการเมือง"
หรือมาตรา 94 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองใดแล้ว ให้นายทะเบียนประกาศคำสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นในราชกิจจานุเบกษา และห้ามไม่ให้บุคคลใช้ชื่อ ชื่อย่อ หรือภาพเครื่องหมายของพรรคการเมืองซ้ำ หรือพ้องกับชื่อ ชื่อย่อ หรือภาพเครื่องหมายของพรรคการเมืองที่ถูกยุบนั้น โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ พรรคไทยรักไทยถูกคำสั่งศาลวินิจฉัยยุบพรรค เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2550 ในช่วงที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นคดีประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทย เพราะมีพรรคการเมือง 3 พรรคถูกยุบพร้อมกัน นอกจากพรรคไทยรักไทยแล้ว มีพรรคพัฒนาชาติไทยและพรรคแผ่นดินไทย