เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2562 สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวระหว่างเข้าร่วมการประชุมที่ประเทศบราซิล ว่า การใช้ความรุนแรงของผู้ประท้วงชาวฮ่องกง นับเป็นการกระทำที่เป็นภัยต่อหลักการ 1 ประเทศ 2 ระบบอย่างยิ่ง พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงให้การสนับสนุนแคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และสิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนในขณะนี้คือการยุติความรุนแรงและความวุ่นวาย เพื่อคืนความสงบสุขให้แก่ฮ่องกง
ด้านตำรวจฮ่องกงเปิดการแถลงข่าว ระบุว่า ทางการฮ่องกงไม่มีแผนการจะประกาศเคอร์ฟิวทั่วทุกพื้นที่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า การกระทำของผู้ประท้วงใกล้จะเข้าข่ายเป็นการก่อการร้ายไปทุกขณะ หลังจากที่ผู้ประท้วงเปลี่ยนมหาวิทยาลัยเป็นโรงผลิตอาวุธ มีการใช้ทั้งธนู ลูกศรและเครื่องยิงก้อนหินเพื่อโจมตีตำรวจ
ซึ่งผู้ประท้วงบางส่วนซุ่มอยู่บนสะพานลอยหรือตามที่สูง เพื่อทิ้งสิ่งของลงมาใส่ตำรวจ หวังประทุษร้าย รวมทั้งยังขว้างปาระเบิดเพลิงเข้าใส่จนตำรวจต้องตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา
ส่วนมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วฮ่องกง ประกาศว่าจะไม่มีการเรียนการสอนไปจนถึงสิ้นปี พร้อมทั้งให้นักศึกษาใช้วิธีเรียนทางออนไลน์แทน
ล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่วัย 70 ปีที่ทำความสะอาดถนนได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากถูกก้อนอิฐกระแทกเข้าที่ศีรษะ ตำรวจระบุว่าเขาถูกลูกหลงในระหว่างการปะทะและขว้างปาก้อนอิฐเข้าใส่กันของผู้ประท้วงกับประชาชน ที่ไม่พอใจการเอาก้อนอิฐมาวางปิดขวางทางสัญจร ซึ่งการเสียชีวิตครั้งนี้ถือเป็นคนที่ 2 ของการประท้วงในรอบสัปดาห์นี
ขณะที่ เทเรซา เชิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมฮ่องกง ซึ่งเดินทางไปยังกรุงลอนดอนของอังกฤษ เพื่อร่วมการปาฐกถาที่สถาบันแห่งหนึ่ง ถูกกลุ่มผู้ประท้วงรุมทำร้ายและกล่าวหาว่าเธอเป็นฆาตกร ทำให้เทเรซา เชิง ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่มือและต้องยกเลิกการปาฐกถา
สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงลอนดอน ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของกลุ่มผู้ประท้วง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ตำรวจอังกฤษเร่งสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวและนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมาย รวมทั้งเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้แก่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของจีนที่อยู่ในอังกฤษ