วันนี้ (29 พ.ย.2562) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ผลการรังวัดที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ รอบ 2 ร่วมกันระหว่างกรมป่าไม้กับ ส.ป.ก. พบว่ามีการบุกรุก 46-1-40 ไร่ แยกเป็นอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี เนื้อที่ 41-1-59 ไร่ และอยู่ในเขตป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 จำนวน 4-3-81 ไร่
ซึ่งต่างจากการรังวัดรอบแรก เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติพื้นที่ 31-0-12ไร่ และอยู่ในพื้นที่ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 อีก 15-2-36ไร่ สรุปคือบุกรุกลดลงรวม 1 งาน แต่มีพื้นที่บุกรุกป่าสงวนเพิ่มขึ้น
อธิบดีกรมป่าไม้ ยืนยันว่า การรังวัดครั้งนี้มีมาตรฐานแม่นยำ เนื่องจากใช้เทคโนโลยีสัญญาณดาวเทียมที่สามารถแปลงได้ทุกอัตราส่วน โดยได้ข้อสรุปที่ทั้ง 2 หน่วยงานคือ กรมป่าไม้ และ ส.ป.ก.ยอมรับร่วมกัน
ทั้งนี้ขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาอัตราส่วนที่ต่างกันของแผนที่ ไม่ได้มีส่วนทำให้การรังวัดคลาดเคลื่อน ขั้นตอนต่อไปหลังทราบผลรังรอบ 2 จะต้องแจ้งให้เจ้าของที่ดินคือ น.ส.ปารีณา รับทราบ เนื่องจากเป็นผู้ยื่นคำร้องมาให้รังวัดใหม่ จากนั้นวันที่ 2 ธ.ค.นี้ จะมีการแถลงสรุปประเด็น และเข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ในข้อหาบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทันที
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ปารีณา ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมป่าไม้และเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ลงวันที่ 25 พ.ย. ขอให้ตรวจสอบเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตปฏิรูปที่ดิน หลังการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รัฐพบว่าที่ดินเขาสนฟาร์มของตนเองบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยขอชี้แจงว่าได้ครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าวโดยสุจริตและเปิดเผยเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งมีลักษณะการทำประโยชน์เป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ และไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการใดตรวจสอบ หรือแจ้งว่ามีการกระทำผิด
สำหรับคดีนี้เป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ห้ามมิให้ผู้ใดแผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมป่าไม้เตรียมแจ้งความ บก.ปทส. “ปารีณา” รุกป่า 2 ธ.ค.นี้
"วีระ" เตือน "ปารีณา" แจ้งความป่าไม้บุกรุก ระวังแจ้งความเท็จ
กรมป่าไม้-ส.ป.ก.ชี้ขาดที่ดิน "ปารีณา" ชัดเจน 2 ธ.ค.นี้