วันนี้ (2 ธ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแข่งขันจักรยานในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ มีชิงชัยกัน 2 เหรียญทอง จากจักรยานเสือภูเขาดาวน์ฮิลชาย และหญิง ที่สนามทาลอง บองโก ในเมืองตาเกไตย์ โดยทีมจักรยานไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันประเภทละ 2 คน ดาวน์ฮิลชาย ได้แก่ นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ กับ นายสืบสกุล สุขจรรยา, ดาวน์ฮิลหญิง ได้แก่ จ.ท.หญิง วิภาวี ดีคาบาเลส กับ น.ส.ศิรภัสสร ชาติกำเนิด ซึ่ง “เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้เดินทางมาให้กำลังใจนักกีฬาถึงขอบสนาม
สำหรับการแข่งประเภทดาวน์ฮิล ตามกฏระเบียบแล้วจะต้องมีการแข่งขันในรอบจัดอันดับ (Seeding Run) ทั้งชายและหญิง จากนั้นจึงเป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ แต่ทาง “เจ้าภาพ” ประเทศฟิลิปปินส์ เปลี่ยนโปรแกรมกะทันหัน โดยตัดรอบจัดอันดับออกไป แล้วให้แข่งขันรอบชิงชนะเลิศทันที สร้างความปั่นป่วนและงุนงงให้แก่ชาติต่างๆ ที่เข้าร่วมการแข่งขันเป็นอย่างมาก
ผลการแข่งขัน ประเภทหญิง อันดับ 1 ลีอา เดนิส เบลกิร่า นักปั่นเจ้าภาพ เวลา 3.09.781 นาที, อันดับ 2 เทียร่า แอนดินี่ ปราสติกา จากอินโดนีเซีย เวลา 3.16.986 นาที, อันดับ 3 “เพชร” วิภาวี ดีคาบาเลส นักปั่นสาวไทย 3.17.607 นาที ส่วน “ไอซ์” ศิรภัสสร ได้อันดับ 4 เวลา 3.18.076 นาที
ส่วนประเภทชาย อันดับ 1 จอห์น เดริค ฟาร์ นักปั่นฟิลิปปินส์ เวลา 2.41.143 นาที, อันดับ 2 เอเลียซาร์ จูเนียร์ บาร์บา นักปั่นเจ้าภาพอีกคน เวลา 2.42.503 นาที, อันดับ 3 แอนดี้ พราโยก้า จากอินโดนีเซีย เวลา 2.47.868 นาที ขณะที่ 2 นักปั่นไทย “เบส” เมธาสิทธิ์ ได้อันดับ 4 เวลา 2.48.010 นาที และ “แสน” สืบสกุล ได้อันดับ 6 เวลา 2.51.309 นาที
เมธาสิทธิ์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ และขอโทษพี่น้องชาวไทยด้วยที่ไม่สามารถทำได้ตามที่หวังไว้ การที่เจ้าภาพปรับเปลี่ยนโปรแกรมการแข่งขันกะทันหันก็มีผลกระทบ จากตอนแรกมีรอบจัดอันดับ ตอนหลังมายกเลิก ทำให้เกิดความสับสนและกดดันพอสมควร ทำให้ต้องเร่งปั่นเพื่อทำเวลา จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุล้มกลางทาง เสียเวลาไปราว 10 วินาที เพราะรถไถลลงไปตามทางด้วย สภาพสนามก็มีส่วน เนื่องจากมีโอกาสลงซ้อมไม่กี่ครั้ง ทั้งที่กำหนดการเดิมจะให้ซ้อมก่อนรอบจัดอันดับ 1 ครั้ง และก่อนรอบชิงชนะเลิศอีก 1 ครั้ง พอโปรแกรมเปลี่ยนโอกาสซ้อมให้ชินกับไลน์ก็หมดไป ต้องขอโทษชาวไทยทุกคนด้วย
ด้าน วิภาวี กล่าวว่า การขี่วันนี้ตนพลาดเอง เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุล้มกลางทาง หากไม่ล้มก็น่าจะทำเวลาได้ดีกว่านี้ ขอโทษคนไทยทุกคนด้วยที่ไม่สามารถนำเหรียญทองไปฝาก หลังจากนี้จะกลับไปฝึกฝนใหม่และไปแก้ตัวในการแข่งจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 1-5 ก.พ.2563 ที่ ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย ขอให้แฟนกีฬาชาวไทยให้กำลังพวกเราต่อไป ซึ่งนักกีฬาทีมชาติไทยจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ศิริภัสสร กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษพ่อแม่พี่น้องชาวไทยทุกคน ที่ทำไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ หลังจากนี้จะพยายามฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อไปแข่งขันในการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่ จ.เชียงราย ปีหน้า
ส่วน ร.อ.สุภัทร ศรีไสว หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสนามแข่งขันเจ้าภาพออกแบบมาเพื่อนักกีฬาของเขาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นดาวน์ฮิล หรือครอสคันทรี่ ขณะที่นักกีฬาไทยและชาติอื่นๆ มีโอกาสได้ซ้อมน้อยมาก แถมยังปรับเปลี่ยนโปรแกรมการแข่งขันกลับไปกลับมา เมื่อวานกำหนดอย่างนี้ เช้ามาเปลี่ยนอีกอย่าง ตกสายๆ เปลี่ยนเป็นอีกอย่าง อีกทั้งการที่เจ้าภาพตัดรอบจัดอันดับ หรือ Seeding Run ออกไป โดยอ้างว่ากลัวพายุ “คัมมูริ” จะเข้า ต้องรีบแข่ง ทั้งที่ต้องฟ้าสว่างโล่ง ซึ่งในจุดนี้ถือว่าทำเพื่อประโยชน์ของนักกีฬาตัวเอง เพราะเขาฝึกซ้อมมานาน มีความคุ้นเคยกับสนามมากกว่า นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังให้นักกีฬาชาติอื่นๆ ที่เป็นตัวเต็งขี่ก่อน แล้วค่อยให้นักกีฬาชาติตัวเองขี่ทีหลังเพื่อทำเวลาให้ดีกว่า และนักกีฬาชาติอื่นก็ไม่มีโอกาสแก้ตัว อีกทั้งยังเสียสมาธิ ทำให้ผลงานไม่เป็นไปตามเป้า
ร.อ.สุภัทร กล่าวต่อไปว่า การแข่งขันในวันนี้ หาก เมธาสิทธิ์ ไม่เกิดอุบัติเหตุล้มกลางทาง น่าจะทำเวลาได้น้อยลงกว่านี้เกือบ 10 วินาที อาจจะได้ถึงเหรียญทอง ส่วน วิภาวี ก็ล้มกลางทางเช่นกัน รวมทั้งนักกีฬาชาติอื่นๆ ก็เกิดอุบัติเหตุเกือบทั้งนั้น เป็นเพราะมีโอกาสซ้อมกันน้อย ยกเว้นเจ้าภาพเพียงชาติเดียว การที่เจ้าภาพเล่นแง่แบบนี้ถือเป็นความอัปยศต่อวงการจักรยานในอาเซียนอย่างมาก ขนาดผู้ฝึกสอนชาวเวียดนามยังงงว่าทำไมเจ้าภาพถึงยกเลิกรอบจัดอันดับ ซึ่งเขาเตรียมพานักกีฬากลับขึ้นไปแข่งในรอบชิงชนะเลิศต่อ แต่เจอเจ้าภาพปั่นป่วนแบบนี้เลยงงหนัก
“ต้องยอมรับว่าสภาพสนามมีส่วนสำคัญมาก จากที่ได้เดินสำรวจในวันแรก ก็รู้เลยว่าเจ้าภาพเขาออกแบบสนามตามความสามารถของนักกีฬาเขาเอง ขณะที่นักกีฬาไทยและชาติอื่นๆ ได้ซ้อมกันแค่ 2-3 ครั้งก่อนแข่ง ขณะที่นักกีฬาฟิลิปปินส์ ซ้อมกันมาทั้งปี แค่หลับตาเดินก็รู้ว่าตรงไหนมีหลุมมีร่อง ผมต้องขอโทษพี่น้องชาวไทยที่ไม่สามารถทำได้ตามเป้า รวมทั้งขอโทษสมาคมกีฬาจักรยานฯ ทีมงานทุกคน และสตาฟฟ์โค้ช หลังจากนี้ก็จะไปปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ เพื่อเตรียมนักกีฬาสำหรับเข้าแข่งขันเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่ จ.เชียงราย ปีหน้า” ร.อ.สุภัทร กล่าว
ด้าน พล.อ.เดชา กล่าวว่า วันนี้นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยสู้อย่างเต็มที่แล้ว ขออย่าไปโทษนักกีฬา ทุกคนมีความตั้งใจมาก ซึ่งหาก เมธาสิทธิ์ และวิภาวี ไม่ล้มกลางทาง ไม่เสียสมาธิเพราะการที่เจ้าภาพเปลี่ยนโปรแกรมไปมา เราอาจจะทำผลงานได้ดังที่หวังเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ยังมีการแข่งขันจักรยานประเภทถนน และบีเอ็มเอ็กซ์ แข่งขันหลังจากนี้ โดยมีชิงรวม 8 เหรียญทอง ขอให้พี่น้องชาวไทยช่วยส่งแรงใจมาเชียร์นักกีฬาไทยกันต่อไป
สำหรับการแข่งขันกีฬาจักรยานประเภทถนน จะมีขึ้นอีกระหว่างวันที่ 4-7 ธ.ค. โดยการชิงชัยวันแรก วันที่ 4 ธ.ค. มีชิง 2 เหรียญทอง จากประเภท ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง ซึ่งไทยส่งนักกีฬา 2 คน คือ ส.ต.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช กับ ร.ท.หญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน และ ไทม์ไทรอัลบุคคลชาย นายธนาคาร ไชยาสมบัติ กับ จ.ท.ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์