วันนี้ (7 ธ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย ยังคงควบคุมตัว นางเนิงซ่าเผิ่น (Mrs.Hnin Zar Phyu) อายุ 39 ปี ภรรยา พล.ต.ทุนเมี๊ยตไหน่ ผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธอาระกัน (Arakna Army- AA) ซึ่งเป็นกำลังชาติพันธุ์ ต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศเมียนมา พร้อมลูกสาว อายุ 11 ปี และลูกชาย อายุ 1 ปี ไว้ในพื้นที่แห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางออกไปนอกและเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านช่องทาง จุดตรวจด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานี หรือท้องที่ และตามกำหนดเวลา และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” เพื่อรอการผลักดันออกจากราชอาณาจักร
ทั้งนี้นางเนิงซ่าเผิ่น ถูกควบคุมตัว ในช่วงเช้าวันที่ 4 ธ.ค. ขณะเข้ามาต่อวีซ่า ที่สำนักงานด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า เป็นบุคคลเฝ้าระวัง จึงทำการกักตัวไว้ และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาสอบสวนด้วยตนเอง เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดยนางเนิงซ่าเผิ่น ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่า เดิมพักอาศัยอยู่ใน จ.เชียงใหม่ แต่หลังจากกองกำลังอาระกัน ได้สู้รบกับกองทัพเมียนมา จึงได้ไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ต่อมาหนังสือเดินทางหมดอายุ จึงเดินทางมาต่ออายุที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ และถูกควบคุมดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเตรียมส่งตัวนางเนิงซ่าเผิ่นกลับไปยังเมียนมาครั้งนี้ หลายฝ่ายเกรงว่าจะสร้างความขัดแย้งให้กับทั้ง 2 ฝ่ายมากยิ่งขึ้น เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันตลอดเวลา และเกรงว่า หากส่งตัวกลับไปให้รัฐบาลเมียนมา จะทำให้ผู้หญิงและเด็กเล็กอีก 2 คน จะไม่ได้รับความปลอดภัย
ผศ.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร อาจารย์ประจำสำนักวิชา การเมืองและการปกครอง คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า กองกำลังอาระกัน ไม่อยู่ในกระบวนการสันติภาพ หน่วยงานในไทยจึงไม่มีความชัดเจนในการใช้กฏหมาย ขณะที่ทางการเมียนมาใช้ทุกช่องทางในการกดดันให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
โดยปัญหาที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ผู้บัญชาการกองกำลัง กองทัพอาระกัน อาจส่งผลกระทบในระยะสั้นเรื่องสิทธิมนุษยชน และ อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระยะยาว