จากกรณีนายบุญมา ฝั่งรักษ์ ประธานชุมชนโรงไม้ขีด พบบัตรประชาชนนับพันใบและสำเนาใบสั่งจำนวนมากถูกนำมาทิ้งไว้ข้างทางภายใน ม.8 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงประสานแจ้งข้อมูลดังกล่าวให้ทาง สภ.บางละมุง และเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ เนื่องจากเกรงว่าคนที่ไม่หวังดีจะแอบนำเอกสารบัตรต่างๆ ไปใช้และอาจมีผลกระทบตามหลังแก่เจ้าของบัตร
วันนี้ (24 ธ.ค.2562) พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับสำเนาใบสั่ง และบัตรประจำตัวประชาชน ที่พลเมืองดีพบตกหล่นริมข้างทางทั้งหมดเป็นสำเนาใบสั่งเก่าตั้งแต่ปี 2553-2554 ส่วนบัตรประจำตัวประชาชนที่ถูกตรวจพบก็หมดอายุไปแล้วหลายปี โดยหลังจากที่ตนมารับตำแหน่งใหม่ ได้มีนโยบายปรับปรุงภูมิทัศน์ของสถานีตำรวจบางละมุงใหม่ทั้งหมด ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กิจกรรม 5 ส. ต่อมาจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สมัย สมจิต รอง ผกก.สอบสวน เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการจัดเก็บเอกสารจำพวกสำเนาใบสั่งเก่า และบัตรประจำตัวประชาชนที่หมดอายุดังกล่าวไปรักษา
ขณะที่เคลื่อนย้ายนำเอกสารดังกล่าวไปเก็บยังบ้านพักส่วนตัว ปรากฏว่าได้มีเอกสารตกหล่นบริเวณริมถนน ในจังหวะที่ไม่รู้ตัว เนื่องจากการเคลื่อนย้ายเอกสารมีค่อนข้างมาก ก่อนจะมีชาวบ้านไปพบตกหล่นอยู่ริมถนน โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดเก็บทันที โและตรวจสอบพบว่าบัตรประจำตัวประชาชนทั้งหมดอายุเกือบ 10 ปี แล้ว จึงไม่สามารถนำไปใช้กระทำการใดๆ ได้
ทั้งนี้ สำหรับหลักฐานที่ต้องเก็บไว้ เนื่องจากเป็นเอกสารทางราชการต้องเก็บรักษาอย่างน้อย 10 ปี ถึงจะนำไปทำลายได้ ส่วนที่บัตรประจำตัวหมดอายุจำนวนมากตกค้างอยู่ที่สถานีตำรวจมาจากที่ประชาชนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันวินัยจราจร และถูกจับก็ได้ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดบัตรประชาชน แล้วไม่ยอมมาจ่ายค่าเปรียบเทียบปรับโดยไปแจ้งบัตรประจำตัวหายแล้วทำใหม่ ซึ่งสมัยก่อนระบบยังไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้