ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตร.แจงปมปรับ ข้อหา "ไกด์เถื่อน" ถ่ายภาพ นทท.ในวัดโพธิ์

อาชญากรรม
20 ม.ค. 63
16:43
3,754
Logo Thai PBS
ตร.แจงปมปรับ ข้อหา "ไกด์เถื่อน" ถ่ายภาพ นทท.ในวัดโพธิ์
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.ชี้แจงปมโซเชียล กรณีตำรวจท่องเที่ยวปรับไกด์เถื่อน 2,000 บาท เหตุเพราะไม่มีบัตรมัคคุเทศก์ แต่ระบุว่าไม่มีเจตนา แต่ยอมรับเข้ามารับจ้างถ่ายภาพให้นักท่องเที่ยววัดโพธิ์ ระบุเข้าข่ายผิดกฎหมาย

วันนี้ (20 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนเพจศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.โพสต์ข้อความว่า พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อนำเสนอข่าว "โวยพาเพื่อนฝรั่งเที่ยววัดโพธิ์ โดนตร.จับ อ้างเข้าข่ายไกด์เถื่อนปรับ 2,000 บาท "ว่า ได้รับรายงานจากกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 12.37 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว พร้อมคู่ตรวจ ได้ออกตรวจบริเวณเขตวัดโพธิ์ และได้รับแจ้งจาก รปภ.ของวัดโพธิ์ ว่ามีไกด์ทำหน้าที่มัคคุเทศก์ไม่แขวนบัตรพานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวจึงตรวจสอบ และพบว่าไกด์ไม่มีบัตรมัคคุเทศก์จริง

จากนั้นจึงเชิญตัวมาสอบถามข้อเท็จจริง และได้อธิบายพฤติการณ์ของมัคคุเทศก์ที่ไม่มีบัตรว่าเป็นการกระทำดังกล่าวผิด พ.ร.บ.มัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 จึงขอตรวจสอบบัตรประชาชนชื่อ-สกุล ซึ่งทางผู้ถูกเชิญตัวได้อธิบายข้อเท็จจริงให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ทำการตรวจสอบว่าไม่ได้เป็นมัคคุเทศก์

เขาระบุว่าได้รับงานถ่ายภาพให้กับนักท่องเที่ยว โดยซื้อคอร์สถ่ายภาพ และพาไปถ่ายตามสถานที่ต่างๆที่กำหนด เป็นเวลา 6 ชั่วโมงได้รับค่าจ้างจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชั่วโมงละ 600 บาท

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฟังข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่าทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมกับจะเชิญตัวไป สน.พระราชวัง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ทางผู้ที่ถูกเชิญตัว ได้อธิบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ทำการตรวจสอบว่า ไม่ทราบว่าการที่เขาได้อธิบายรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับสถานที่ และประวัตินั้นเข้าไปสู่พฤติการณ์การทำหน้าที่ของมัคคุเทศก์

เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้อธิบายให้ฟังว่าการกระทำเช่นนี้ ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.มัคคุเทศก์ฯ หากจะทำหน้า ที่เป็นมัคคุเทศก์ต้องมีบัตรมัคคุเทศก์ที่ได้รับการอบรม และออกบัตรถูกต้องตามกฎหมาย และต้องแขวนบัตรมัคคุเทศก์แสดงให้ตรวจสอบทุกครั้ง ผู้ที่ถูกเชิญตัว จึงรับว่าไม่ได้มีเจตนากระทำการดังกล่าวแต่ได้รับงานถ่ายรูปภาพให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และมีค่าจ้างตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นจริง จึงได้ว่ากล่าวตักเตือน และอธิบายตามให้ผู้ที่ถูกเชิญตัวรับทราบและได้ปล่อยตัวไป

ยืนยันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เรียกรับผลประโยชน์หรือปรับตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง-เตือนอย่าเป็นไกด์เถื่อน

รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่า พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบช.ทท. ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.เกื้อกมล ดวงประทีป ผกก.1 ทท.1 ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยให้รายงานผลการตรวจสอบโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และคลี่คลายข้อสงสัยของสังคม

อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าว เข้าข่ายความผิดฐาน ผู้ใดทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตาม พ.ร.บ.มัคคุเทศก์ฯ จึงขอให้ประชาชนควรศึกษารายละเอียด ข้อกฎหมาย หรือการกระทำใดๆ อันสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย เพราะหากกระทำผิดไปแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการบังคับใช้ตามกฎหมายอย่างจริงจังและเข้มงวด ซึ่งผู้กระทำผิดจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้

เตือนตำรวจห้ามเรียกรับผลประโยชน์

ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วน ผู้บัง คับการ ผู้กำกับ หน.หน้าหน่วยในทุกต้นสังกัดทุกพื้นที่ ให้มีการควบคุม ดูแลความประพฤติและวินัยข้าราช การตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งที่ 1212/2537 ในการ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติและพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายระมัดระวังกิริยามารยาท ในการแสดงออกและขอเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย อย่าลุแก่อำนาจที่ตนมี

หากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความประพฤตินอกรีต ไปเรียกรับเงินทอง เรียกรับผลประโยชน์อื่นใด หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ ให้ดำเนินการตรวจสอบกระทำด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งหากผลการตรวจสอบพบว่าได้กระทำผิดจริงให้ดำเนินทางวินัย และอาญาอย่างเด็ดขาด

อีกทั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำในลักษณะนี้ทั้ง ไล่ออก ปลดออก ให้ออก หากความผิดปรากฎชัดเจน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี

กรณีนี้เกิดจากมีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งโพสต์ข้อความอ้างว่าเพื่อนถูกเรียกเงิน 2,000 บาทไม่มีใบเสร็จเนื่องจากพาเพื่อนชาวต่างชาติมาเที่ยวและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่วัดโพธิ์ โดยเป็นเหตุการณ์เมื่อ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง