เข้าสู่วันที่ 3 ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังไม่พ้นการซักฟอก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่ถึงคิวอีก 5 รมต.ที่เหลือ
แต่วันนี้เป็นคิวที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ต้องลุกขึ้นอภิปราย
โจทก์เก่านายกฯ คนนี้ ออกตัวแต่ต้น “ไม่สน” ข้อตกลงวิปรัฐบาล-วิปฝ่ายค้าน ที่ดีลกันแล้วว่าจะไม่อภิปรายปมถวายสัตย์ฯ
“จะปิดกั้นอะไร คนทั้งประเทศรู้ว่านายกฯ ถวายสัตย์ฯไม่ครบ”
ทันทีทันใดที่ลุกขึ้นอภิปรายก็ถูกทักท้วง คนแรก คือ นายชินวรณ์ บุญเกียรติ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ท้วงประธานที่ประชุมสภาฯ เหตุวิปตกลงกันไม่อภิปรายประเด็นนี้
1.เกิดขึ้นก่อน ครม.บริหารราชการ 2.อภิปรายทั่วไปไม่ลงมติไปแล้ว 3.ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง และ 4. เป็นการกระทำทางการเมืองเฉพาะที่ปฏิบัติต่อสถาบันไม่ควรพูดอีก
และเมื่อเริ่มพูดได้ 5 นาที “นายกฯ” ส่งซิกให้ “องครักษ์” ประท้วงวุ่น ตั้งแต่นักท้วงอย่าง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ถึง นายสิระ เจนจาคะ และอื่นๆ อีกมากมาย
รวมใช้เวลาท้วงไป-ท้วงมา เกือบ 2 ชม. เสียเวลาไปอย่างสูญเปล่า
จนในที่สุด นายศุภชัย โพธิ์สุ ประธานที่ประชุมฯ ต้องตัดบท หลังวินิจฉัยไปแล้วว่าไม่ให้อภิปรายเรื่องถวายสัตย์ฯ และขู่ใช้อำนาจตามข้อบังคับ “ไล่ออกห้องประชุม”
กระทั่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หลุดใช้คำว่า “เดี๋ยวเจอกันนอกสภาฯ”
ขณะที่ นายศุภชัย โต้ตอบทันทีว่าไม่เคยกลัว “ท่านสุภาพบุรุษนาแก ผมก็สหายแสง อย่ามาขู่กัน”
ข้อสังเกตต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีอะไรในกอไผ่หรือไม่ ? เหตุใด นายกฯ และองครักษ์ต้องสะกัด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ขนาดนี้
คำตอบนั้นไม่ยากเกินไป คือปมฝั่งใจตั้งแต่วันเปิดประชุมสภาฯ ที่นายกฯ เข้ามาแถลงนโยบาย โดน พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ จี้จนหลุด-แสดงอาการโมโหและใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม
ถ้ายังจำกันได้นายกฯ หลุดใช้ประโยคนี้ "ท่านไม่เคยให้เกียรติผมเลย ท่านบอกว่าชักปืนยิงผมตั้งแต่วันโน้น ถ้าท่านชักปืนยิงวันนั้นท่านก็ติดคุก” (พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เคยให้สัมภาษณ์เดือน พ.ค.2562 ว่า หากวันปฏิวัติ ปี 2557 อยู่ในเหตุการณ์จะยิงหัว พล.อ.ประยุทธ์ ทันที)
สรุปคือ นายกฯส่งซักสะกัด เพื่อป้องกัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยั่วโมโห!
แม้ว่ารอบนี้จะดูยิ้มแย้มและทำการบ้านมาดี แต่เมื่อวานนี้ก็เผลอหลุดมีอารมณ์ หลังถูก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.เพื่อไทย สบประมาทว่าเป็น “ตัวตลก” ไม่เหมาะเป็นนายกฯ เช่นกัน
แต่ถ้ามองที่ปัจจุบัน คำตอบอยูที่ข้อตกลงของ วิปรัฐบาล-วิปฝ่ายค้าน แน่นอนว่าก่อนการอภิปรายฯ รอบนี้ มีเงื่อนไขนับไม่ถ้วนกว่าจะลงตัว
การดึงดันที่จะอภิปรายฯ ปมถวายสัตย์ฯ จึงไม่ได้อยู่ในวาระแต่แรก สังเกตจาก “เพื่อไทย” ก็ไม่ได้กระตือรือล้นในเรื่องนี้ มีแต่เพียง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่จะอภิปรายให้ได้
สุดท้ายเป็นไปตามข้อกังวลของ “วิปฝ่ายค้าน” ย้ำว่าคนที่กังวลคือฝ่ายค้าน ที่ถูกหักเวลาอภิปราย และหักเวลาจากการคัดค้านของ ส.ส. ฝ่ายค้านที่ผสมโรงไปด้วย
ลึกๆในกอไผ่จึงไม่ใช่ “ข้อมูลลับ” ที่ เสรีพิศุทธ์ จะแฉเพิ่ม แต่เป็นเรื่องอารมณ์ที่เป็นต้นทุนเดิมของนายกฯ ที่กลัวจะกดไว้ไม่อยู่
ใครจะไปรู้ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะหลุด “ถ้อยคำ” ใดมาจี้ใจนายกฯ สู้ตัดไฟเสียต้นลม ข่มอารมณ์ไว้รับศึกซักฟอกที่เหลืออีก 2 วันดีกว่า