วันนี้ (16 เม.ย.2563) นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า ณ วันที่ 15 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์เพิ่มวันเดียว สูงถึง 17 ราย ดังนี้ กรุงเทพฯ 3 ราย เป็นร้านขายยา 1 ราย พบผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาสีฟ้า บรรจุซองใส 10 ชิ้น/แพค ในราคาชิ้นละ 25 บาท โดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดตามมาตรา 28
ลลิดา จิวะนันทประวัติ
นอกจากนี้ ยังพบร้านค้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก 1 ราย โดยทำการล่อซื้อและจับกุม พบขายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคา 650 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 13 บาท) รวม 8,850 ชิ้น และอีก 1 ราย เป็นร้านค้าทั่วไป บรรจุกล่อง 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 850 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 17 บาท) โดยทั้ง 2 ราย กระทำความผิดข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาสูงเกินสมควร ตามมาตรา 29
ต่างจังหวัด 14 ราย แยกเป็นการกระทำความผิด ดังนี้
- กระทำความผิด ตามมาตรา 28 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย จำนวน 7 ราย ได้แก่ จ.สตูล 1 ราย จ.สมุทรสาคร 2 ราย จ.มุกดาหาร 1 ราย (จำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊ก) และ จ.อุดรธานี 3 ราย (จำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊ก)
- กระทำความผิดตามมาตรา 25 (5) ข้อหาไม่แจ้งต้นทุน ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ต่อ กกร. เป็นโรงงานผลิตเจลล้างมือแอลกอฮอล์ใน จ.ปทุมธานี 1 ราย
- กระทำความผิดตามมาตรา 25 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินราคาที่กำหนด โดยการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก 1 ราย ในราคากล่องละ 750 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 15 บาท) ผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ 1 ราย ในราคากล่องละ 890 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 17.80 บาท) และร้านค้าทั่วไปอีก 1 ราย จำหน่ายหน้ากากอนามัย ในราคากล่องละ 700 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 14 บาท) ใน จ.อุดรธานี 3 รายกระทำความผิดตามมาตรา 29 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินสมควร โดยการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก พบจำหน่ายหน้ากากอนามัย บรรจุกล่อง 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 650 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 13 บาท) ใน จ.อุตรดิตถ์ 1 ราย
- กระทำความผิดตามมาตรา 25 และมาตรา 29 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุมและจำหน่ายในราคาสูงเกินสมควร เป็นร้านค้าทั่วไปพบจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical mask) ในราคากล่องละ 660 – 780 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 13.20 – 15.60 บาท) ใน จ.ขอนแก่น 2 ราย
ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ มีจำนวนสูงขึ้นถึง 336 ราย แยกเป็น กรุงเทพฯ 159 ราย และต่างจังหวัด 177 ราย
คาดว่าราคาขายไข่ไก่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
สำหรับสถานการณ์การจำหน่ายไข่ไก่ในขณะนี้ คาดจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จากสถิติการจับกุมผู้จำหน่ายไข่ไก่เกินราคาทั่วประเทศ ที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่ม ยอดรวมยังคงอยู่ที่ 26 ราย โดยรวมความต้องการซื้อไข่ไก่ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติประชาชนซื้อเท่าที่พอเพียงต่อการบริโภค อีกทั้งมีปริมาณผลผลิตไข่ไก่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น สามารถสั่งซื้อและส่งสินค้าได้ตามปกติ
ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้งมาตรา 26 ข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย มาตรา 28 ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และมาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ติดตามตรวจสอบการขายสินค้าแพงเกินจริง
รองโฆษกฯ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้าติดตามตรวจสอบ และจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการตรวจสอบการจำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ รวมถึงสินค้าที่ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุม เช่น ไข่ไก่ หากพบขายเกินราคาควบคุม และแพงเกินจริงมีการกักตุนสินค้า หรือเอาเปรียบประชาชน จะดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโควิด – 19
ทั้งนี้ หากพบมีการขาย ร้องเรียนได้ทันทีที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด