ระบบรถไฟใต้ดินมหานครนิวยอร์กเคยหยุดให้บริการ 2 ครั้ง ด้วยเหตุผลดินฟ้าอากาศ ครั้งแรกในปี 2554 เนื่องจากพายุเฮอริเคนไอรีน และครั้งที่สองในปี 2555 เนื่องด้วยภัยพิบัติจากเฮอริเคนแซนดี้ เป็นเหตุสุดวิสัยทำให้รถไฟใต้ดินต้องหยุดให้บริการ
ต่างจากการหยุดให้บริการช่วงตีหนึ่งถึงตีห้า ตอนเช้าตรู่วันพุธที่ 6 พฤษภาคม ซึ่งเป็นการหยุดให้บริการโดยมีการวางแผนไว้ก่อน
ซีเอ็นเอ็น รายงานว่าจำนวนผู้โดยสารรถไฟใต้ดินในมหานครนิวยอร์ก ลดลงประมาณ 90 เปอร์เซนต์ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามในช่วงระหว่างตีหนึ่งถึงตีห้าก็ยังมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยประมาณ 11,000 คน

การระบาดของโควิด-19 ทำให้องค์การขนส่งมวลชนมหานครนิวยอร์ก ต้องเพิ่มมาตรการสุขอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงของพนักงานและผู้ใช้บริการ เช่น มีการติดตั้งแผ่นไวนิลกั้นระหว่างคนขับรถโดยสารประจำทางกับผู้โดยสาร และมีการตรวจวัดอุณหภูมิพนักงาน 3,500 คน เป็นประจำทุกวัน
องค์การขนส่งมวลชนมหานครนครนิวยอร์กเปิดเผยว่า มีพนักงานเสียชีวิตจากโควิด-19 แล้วจำนวน 80 คน ซี่งส่วนใหญ่ปฏิบัติงานในระบบรถไฟใต้ดิน มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 คน
สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันสะสม 1.26 ล้านคน และจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเกือบ 75,000 คน