เตือนอย่าแห่ถอนเงิน หวั่นทำสหกรณ์เจ้าหนี้ "การบินไทย" ล้ม

วันนี้ (15 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาบริษัทการบินไทย ที่กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาแผนฟื้นฟูฯ ตามกฎหมายล้มละลายหรือไม่ ทำให้สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้บริษัทการบินไทย แห่ถอนเงินออกจากสหกรณ์ เพราะเกรงจะถูกรอนสิทธิ์

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ขอให้สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ อย่าตื่นตระหนก แห่ถอนเงิน หลังพบว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ไม่น้อยกว่า 7 แห่ง แห่ถอนเงินมากกว่า 100-200 ล้านบาทต่อวัน จากปกติเฉลี่ยไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยขณะนี้ สหกรณ์ยังสามารถหาสภาพคล่อง หมุนเวียนการถอนเงินได้ ประกอบกับสหกรณ์บางแห่งเริ่มจำกัดวงเงินถอนเงิน เพื่อลดความเสี่ยง

พิเชษฐ์ วิริยะพาหะ

พิเชษฐ์ วิริยะพาหะ

พร้อมชี้แจงว่าฐานะการเงินและสภาพคล่องของสหกรณ์ที่เป็นเจ้าหนี้บริษัทการบินไทย 82 แห่ง ล้วนเป็นสหกรณ์ที่มีความเข้มแข็งสูง มีมูลค่าสินทรัพย์สูงกว่า 1.17 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับวงเงินลงทุนหุ้นกู้ บริษัทการบินไทย 42,000 ล้านบาท และลงทุนในหุ้นสามัญเพียง 273 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.62 ของสินทรัพย์ ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับขนาดสินทรัพย์

นายพิเชษฐ์ กล่าวย้ำว่า หากสมาชิกสหกรณ์ ยังคงถอนเงินไม่หยุดเช่นนี้ อาจกระทบสภาพคล่องสหกรณ์ มากกว่าปัญหาการผิดนัดชำระของบริษัทการบินไทย

"การบินไทย" มีคิวชำระหนี้หุ้นกู้ปีนี้กว่า 1,100 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทการบินไทย มีกำหนดครบชำระหนี้ในรอบเดือน ส.ค. และ ก.ย. จำนวน 20 แห่ง คิดเป็นเงินกว่า 1,100 ล้านบาท รัฐบาลน่าจะหาทางออกดีที่สุดให้กับบริษัทการบินไทย และไม่กระทบการชำระหนี้ในปีถัดๆ ไป โดยบริษัทการบินไทย มีกำหนดชำระหุ้นกู้สหกรณ์ 82 แห่ง ระหว่างปี 2563-2577 โดยในปี 2564 ครบกำหนดชำระหนี้ 3,200 ล้านบาท ปี 2565 จำนวน 4,900 ล้านบาท ปี 2568 กว่า 5,000 ล้านบาท

กรมฯ จึงเตรียมผ่อนเกณฑ์การกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญ ไม่ต้องตั้งกันสำรอง 100% เพื่อไม่กระทบการจ่ายปันผลสมาชิก รวมทั้งเตรียมแผนรับมือ หากบริษัทการบินไทย ประกาศล้มละลาย เพื่อดูแลสภาพคล่องสหกรณ์ออมทรัพย์ แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด เพราะยังไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจะช่วยบริษัทการบินไทยรูปแบบใด

ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบสหกรณ์เจ้าหนี้บริษัทการบินไทย ยังไม่พบพิรุธ หรือความเสี่ยงพัวพันการทุจริต จนซ้ำรอยกรณีสหกรณ์คลองจั่นยูเนี่ยนแน่นอน