วันนี้ (26 พ.ค.2563) ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เชิญตัวอดีตแพทย์โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มาให้ข้อมูลพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับศาลอาญาในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า
ตำรวจมีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่านายแพทย์คนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเครือข่ายรับจ้างอุ้มบุญข้ามชาติที่ถูกจับ เมื่อช่วงเดือน ก.พ.2563 ซึ่งเครือข่ายนี้มีนายทุนชาวจีนว่าจ้างหญิงไทยมาอุ้มท้อง โดยเลี่ยงกฎหมายด้วยการพาไปฉีดสเปิร์มในประเทศเพื่อนบ้านแล้วกลับมาพักในไทยจนท้องแก่จึงเดินทางไปคลอดที่ประเทศจีน
มีข้อมูลจากชุดสืบสวน ระบุ พฤติกรรมของนายแพทย์คนนี้ว่าทำหน้าที่ผสมหัวเชื้อสเปิมส์และฉีดเชื้อใส่แม่อุ้มบุญเพื่อให้ตั้งครรภ์ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลสำคัญในการทำอุ้มบุญ นายแพทย์คนนี้ถือว่ามีชื่อเสียงคนหนึ่งในวงการอุ้มบุญในประเทศไทย นอกจากนี้ ตำรวจ ปคม.ยังเตรียมเชิญนายแพทย์ อีก 4 คน มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีนี้ด้วย
เมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) ตำรวจจับนายหน้าหญิงไทยคนหนึ่งมีหน้าที่รับส่งโอนเงินโดยพบเส้นทางธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ มากกว่า 70 ครั้ง เบื้องต้นนายหน้าหญิงไทยได้ใช้หลักทรัพย์เงินสด 200,000 บาท ขอประกันตัวในชั้นสอบสวนไปแล้ว
สำหรับคดีนี้ขยายผลมาจากเมื่อวันที่ 13 ก.พ.2563 ตำรวจ ปคม. เปิดปฏิบัติการ "อุ้มบุญ" หรือ การรับจ้างตั้งครรภ์ที่มีนายทุนชาวจีนว่าจ้างผู้หญิงไทยอุ้มท้อง โดยในครั้งนั้นเข้าตรวจค้นบ้านหรูหลังหนึ่งบริเวณถนนนาคนิวาส ย่านลาดพร้าว พบทารกเพศชาย อายุประมาณ 30 วัน กับหญิงสาว 7 คน ที่รับจ้างตั้งครรภ์ โดยทั้ง 7 คน ได้รับการฝังไข่แล้วมีการดูแลอย่างดีเพื่อให้ตั้งครรภ์และคลอดทารก