วันนี้ (28 พ.ค.2563) ที่สำนักงานป.ป.ช. พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในฐานะประธานกรรมการเฝ้าระวังและประเมินสภาวะการทุจริต แถลงข่าวว่า จากกรณีที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำเงินสะสมไปใช้จ่ายเพื่อดำเนินการเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและระงับโรค COVID-19
ภาพประกอบข่าว
โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง ประเภทเงินสำรองจ่ายได้อีกด้วย และการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้ได้มาซึ่งพัสดุสำหรับป้องกันควบคุมรักษาโรค COVID-19 ยังได้รับการยกเว้น ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงและระเบียบกระทรวงการคลัง ที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ ตามหนังสือเวียนของกรมบัญชีกลาง ซึ่งการใช้จ่ายงบประมาณในลักษณะนี้ อาจนำไปสู่ช่องทางให้เกิดการทุจริตได้นั้น
ป.ป.ช. ได้เล็งเห็นถึงความเสี่ยงของการเกิดการทุจริต หรือโอกาสที่อาจจะเกิดการทุจริตขึ้น จึงเห็นควรให้มีการติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และในเบื้องต้นขอความร่วมมือปลัดกระทรวงมหาดไทย ผ่านไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ดำเนินการเปิดเผยราคาพัสดุ ที่ได้จัดซื้อจัดจ้างเกี่ยวกับการป้องกันหรือรักษาโรค COVID-19 เพื่อเสริมสร้างความโปร่งใสตรวจสอบได้
ภาพประกอบข่าว
และขอให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติภาค และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัด ที่อาจจะมีการขอเข้าไปสังเกตการณ์การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว ในแต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย
ขณะเดียวกันการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อเข้าสังเกตการณ์ การใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งกลุ่มปฏิบัติการในพื้นที่ดังกล่าวนั้น เมื่อลงพื้นที่แล้วจะรวบรวมข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและปัญหาที่ตรวจพบ ส่งรายงานมายังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่ส่วนกลาง เพื่อให้สำนักเฝ้าระวังและประเมินผลสภาวะการทุจริตดำเนินการวิเคราะห์และประมวลผล
ภาพประกอบข่าว
ซึ่งหากพบว่าการดำเนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด นำไปสู่การทุจริตหรือสอบว่า อาจมีการทุจริต ทางสำนักเฝ้าระวังและประเมินสภาวะการทุจริตจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชุดใหญ่ทันที เพื่อให้พิจารณาข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข ส่งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย โดยยึดตามกฏหมาย มาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2561