วันนี้ (2 ก.ค.2563) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุขชี้แจงระหว่างการประชุมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2563 หลังจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายประเด็นทุจริตเบิกเงินค่าตรวจสุขภาพป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น ตรวจเบาหวาน น้ำตาลในเลือด กับคลินิกที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
นายอนุทินกล่าวว่า ตนได้รับข้อมูลว่า มีข้อเท็จจริง และ สปสช.รับทราบปัญหานี้แล้วพบส่อไปในทางทุจริต เบิกค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้ให้บริการจริง ขณะนี้หยุดการชำระเงินให้สถานพยาบาล 18 แห่ง และหยุดชำระหนี้งวดต่าง ๆ พร้อมเรียกคืนหนี้จากคลินิกเหล่านี้ และขณะนี้ได้รับเงินคืนบ้างแล้ว
การกระทำดังกล่าวเป็นการทุจริตในการเบิกเงิน จึงจะยกเลิกใบประกอบโรคศิลปะที่ให้คลินิก 18 แห่ง พร้อมสั่งการให้ตรวจสอบ 100 % ซึ่งการดำเนินการของ สปสช.เพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน ลดความแออัดในการเข้ารับบริการสถานพยาบาลรัฐ
เมื่อพบเหตุการณ์ส่อทุจริต ตนได้ตำหนิว่า ต้องดำเนินการโดยเร็วและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งจะติดตามด้วยตัวเอง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน
ด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ชี้แจงเรื่องการบรรจุข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติ 4.5 หมื่นอัตรา ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ที่ทำงานกับ กระทรวงสาธารณสุข เกือบ 2 แสนคน ยังไม่ได้บรรจุ
เมื่อเกิดสถานการณ์ COVID-19 รัฐบาลจึงอนุมัติตำแหน่ง 4.5 หมื่นอัตรา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ใน 24 สายงานจึงมีบางกลุ่มที่ไม่ได้รับ แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
ส่วนกรณี ส.ส.พรรคก้าวไกล ติงรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญสถาบันวัคซีน โดยเปรียบเทียบงบฯ ปี 63 กับปี 64 ว่า งบฯ ลดลง 45 % และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ยืนยันว่า การจัดทำงบฯ ปี 64 เป็นการปรับพื้นฐานงานวิจัย เน้นที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง โดยยกการทำวิจัยทั้งหมด ไปอยู่ที่กระทรวงการอุดมศึกษาฯ เพื่อลดความซับซ้อน อีกทั้งสถาบันวัคซีน ได้งบฯ เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งยกระดับหน่วยงานเพื่อความร่วมมือต่าง ๆ
กระทรวงสาธารณสุขจัดสรรงบฯ ใน พ.ร.ก.เงินกู้เกือบ 3 พันล้านบาท แยกเป็นสถาบันวัคซีน ได้งบฯ พัฒนาวัคซีนต้นแบบ 95 ล้านบาท การทดสอบในสัตว์ ได้แก่ หนู ลิง ซึ่งมีความก้าวหน้า เป็นที่พอใจการทดสอบในมนุษย์ 702 ล้านบาท และผลิตวัคซีนต้นแบบ 1,513 ล้านบาท สะท้อนความสำคัญ และเป็นความภาคภูมิใจของไทยที่พัฒนางานวิจัยด้วยตัวเอง
ส่วนสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขได้งบประมาณ 35 ล้านบาท เป็นงบพื้นฐาน แต่กระทรวงสาธารณสุขได้แยกงบฯ วิจัยเพิ่มเติม 1,008 ล้านบาท ได้แก่ งบพัฒนาจริยธรรมการวิจัยมนุษย์ 8 ล้าน งบวิจัยเชิงระบบสุขภาพฯ 200 ล้านบาท งบวิจัยแก้ปัญหา COVID-19 และโรคระบาดในอนาคต 300 ล้านบาท และตั้งศูนย์จีโนมิกส์ EEC เป็นงบผูกพัน 500 ล้านบาท ยืนยันว่าไม่ได้ลดงบวิจัย แต่เป็นการแยกงบ 2 หน่วยงานไปที่ อว.
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณี ส.ส.อภิปรายประเด็นปัญหาการจราจร ถนนบางแห่งไม่มีเกาะกลางถนน ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้รับเรื่องไปตรวจสอบและแก้ไขแล้ว ยืนยันว่าการสร้างถนนใหม่จะให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยอย่างยิ่ง บางเส้นทางอาจจำกัดความเร็ว
นายกฯ ตอบประเด็นการใช้ยางพารา จะเพิ่มการใช้ประโยชน์ในประเทศ รวมทั้งพัฒนานวัตกรรม โดยรัฐบาลย้ำให้ทุกกระทรวงใช้ประโยชน์และจัดซื้อจัดจ้างนวัตกรรมที่ขึ้นทะเบียนแล้ว วันนี้ราคาน้ำมันลดลงจึงแยกบางส่วนไปใช้ยางสังเคราะห์จากน้ำมัน ต้องหาวิธีการใช้ในประเทศ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงเรื่องไฟป่าว่า รัฐบาลให้ความสำคัญ ส่งเสริมอาสาสมัครประจำหมู่บ้านและชุมชน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ดูแลในพื้นที่ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเจ้าหน้าที่เต็ม แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชน โดยรัฐบาลใช้ข้อมูลเพื่อแก้ปัญหา PM 2.5 และไฟป่า ทั้งในประเทศและหมอกควันข้ามแดน