วันนี้ (17 ก.ค.2563) แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เรียกร้องทางการไทยยกเลิกข้อกล่าวหาต่อ 2 แกนนำเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย หลังจากที่มีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้ง 4 ข้อกล่าวหาทั้ง 2 ว่า ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน และหลบหนีการคุมตัว
เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุม 2 แกนนำเยาวชนกลุ่มตะวันออกระยองเพื่อประชาธิปไตย ที่ถือป้ายประท้วงและวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี หลังกรณีทหารอียิปต์พร้อมลูกเรือไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรการกักตัวในการเข้ามายังประเทศไทย และพบคนหนึ่งในนั้นติดเชื้อ COVID-19 และทั้งคณะพากันไปเดินห้างสรรพสินค้าก่อนกลับเข้าโรงแรม
จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัว 2 แกนนำฯ ดังกล่าว ออกไปจากด้านนอกของโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.ระยอง ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาถึงในเวลาไม่นาน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้แสดงหมายจับในระหว่างการจับกุมและไม่ได้แจ้งข้อหาให้ผู้ประท้วงทราบ
ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ต้องคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการรวมตัวกัน ไม่ใช่ลงโทษทั้ง 2 คน เพียงแค่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบ
เจ้าหน้าที่ไม่ควรปิดปากประชาชนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างสงบ และมีการวางข้อจำกัดที่ไม่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับการชุมนุมโดยสงบ อ้างการควบคุมโรค COVID-19
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ย้ำให้เจ้าหน้าที่ทบทวนการใช้อำนาจฉุกเฉินรับมือกับการระบาดของโรค COVID-19 เพื่อให้การใช้อำนาจดังกล่าวได้สัดส่วนตามความจำเป็นและไม่เลือกปฏิบัติ รวมทั้งไม่ใช้เพื่อจำกัดสิทธิโดยพลการ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
แกะรอยทหารอียิปต์ป่วย COVID-19 พักใน จ.ระยอง
คุม 2 แกนนำเยาวชนประท้วง "ประยุทธ์" การ์ดตก
แจ้งข้อหา "2 เยาวชน" ฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชูป้ายรอนายกฯ