วันนี้ (30 ก.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าหน่วยรักษาศพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ น.ส.ตะวันฉาย มาดทอง อายุ 15 ปี ลูกสาวของนายจารุชาติ พร้อมด้วยญาติเดินทางมาติดต่อขอรับศพ นายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนเสียชีวิต
บรรยากาศที่ด้านหน้าหน่วยรักษาศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทางญาติพบว่า สภาพใบหน้าของนายจารุชาติ ยังคงปกติ แต่มีเลือดออกที่ศีรษะและหู หลังจากที่นำร่างของนายจารุชาติ บรรจุในโลงศพ พร้อมว่าจ้างให้รถของหน่วยรักษาศพไปส่งที่บ้านหมู่ 15 ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย คาดว่าจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ตลอดการเดินทางนั้น ทางครอบครัวก็ได้นำเหรียญมาโปรยระหว่างทางด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปดูบริเวณที่เกิดเหตุ พบเศษกระจกรถ และถุงมือของเจ้าหน้าที่กู้ชีพที่ถอดวางไว้อยู่บริเวณที่เกิดเหตุเท่านั้น ส่วนรอยเลือดหรือร่องรอยอย่างอื่นไม่พบที่เกิดเหตุ
ตำรวจระบุเป็นอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน
พ.ต.อ.รณชัย รอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงค์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.50 น. ของวันที่ 30 ก.ค. นายจารุชาติ มาดทอง ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 เอส สีเทา-ดำ หมายเลขทะเบียน ครข 221 เชียงใหม่ มาตามถนนสายห้วยแก้ว มุ่งหน้าเข้ากลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนถึงสามแยกไฟแดงฟ้าธานี ได้มีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีดำ หมายเลขทะเบียน 7ค 2340 เชียงใหม่ โดยมีชายคนหนึ่งขับอยู่ด้านหน้า
ซึ่งนายจารุชาติ ผู้ตาย ได้ขับขี่รถไปชนเข้าบริเวณท้ายด้านซ้ายของรถคู่กรณี ที่อยู่ด้านหน้า ก่อนรถจะเสียหลักแฉลบล้มลงไปด้านขวา แล้วศีรษะไปกระแทกเข้ากับคอนกรีตเกาะกลางถนน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้นำตัวผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาประมาณ 04.50 น.
ส่วนคู่กรณี คือ นายสมชาย ตาวิโน อายุ 50 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์ได้รักษาบาดแผลและอนุญาตให้กลับบ้านไปในเวลา 15.30 น. โดยผลการตรวจสอบแอลกอฮอล์ในร่างกายของแพทย์ระบุว่า พบแอลกอฮอล์ในร่างกายทั้งคู่ และในวันที่ 31 ก.ค. จะเชิญคู่กรณีของผู้เสียชีวิต ให้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ในขณะเดียวกันก็จะได้ตรวจการเดินตลอดเส้นทางว่า รถทั้งสองคันเดินทางมาอย่างไร เพื่อจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งในวันพรุ่งนี้เรื่องราวต่างๆ จะกระจ่างทั้งหมด
ลูกสาวไม่รู้ว่าพ่อเป็นพยานคดีสำคัญ
ด้าน น.ส.ตะวันฉาย มาดทอง อายุ 15 ปี ลูกสาวของนายจารุชาติ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้พบพ่อมาหลายเดือนแล้ว พบกันล่าสุดคือวันเกิดของตน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเป็นครั้งเดียวที่พบกัน ซึ่งตนเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว พ่อทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง ทราบว่า เพิ่งไปทำงานที่ไต้หวันอยู่ 3 - 4 ปี ก่อนจะกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ และมาเสียชีวิต ส่วนที่ว่าพ่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ตนไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเลย พ่อไม่เคยเล่าให้ฟัง และไม่เคยรู้ว่าพ่อไปเป็นพยานในคดีที่เกิดขึ้น
ขณะที่ญาติของนายจารุชาติ กล่าวเสริมว่า ผู้ตายทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง เมื่อก่อนทำงานอยู่กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน 3 - 4 ปี ก่อนจะกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ มาเป็นพนักงานขับรถ แต่ไม่ทราบว่าทำงานที่ไหน ลักษณะงานเป็นยังไง ส่วนทางด้านคดีทางญาตก็ไม่ทราบ กระทั่งได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุและนายจารุชาติ เสียชีวิต จึงเดินทางมารับศพ
คู่กรณีระบุไม่รู้จักผู้ตายมาก่อน
วันเดียวกัน นายสมชาย ตาวิโน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่เฉี่ยวชนกับนายจารุ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศ โดยระบุว่า คืนเกิดเหตุมีอาการมึนเมาสุรา ขณะขี่รถจักรยานยนต์มาถึงที่เกิดเหตุ ถูกรถจักรยานยนต์ของผู้ตายเฉี่ยวชนด้านหลัง ทำให้รถเสียหลักล้มลง จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนไม่เคยรู้จักกับผู้ตายมาก่อน