วันนี้ (3 ส.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ จักรยานยนต์ กองปราบปราบ นำกำลังจับเครือข่ายลักลอบจำหน่ายรถยนต์ โดยส่งออกไปยัง สปป.ลาว พร้อมตรวจยึดรถยนต์ได้ 26 คัน พร้อมป้ายทะเบียน สมุดเล่มรถอีกจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า แก๊งนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม แยกกันทำงานคนละพื้นที่คือ จ.อุบลราชธานี และ จ.มุกดาหาร ตำรวจสืบสวนติดตามพฤติกรรมมานานกว่า 6 เดือน จนได้ข้อมูลชัดเจนว่าทั้ง 2 กลุ่ม เป็นขบวนเดียวกันและทำมาแล้วประมาณ 3 ปี
โดยมีพฤติการณ์คือ จะรับออเดอร์ยี่ห้อและรุ่นรถยนต์จากนายทุนฝั่ง สปป.ลาว แต่ที่นิยมส่วนใหญ่เป็นรถยนต์กระบะ หลังรับออเดอร์มาแล้วจะเข้ามาหารถยนต์ โดยเน้นไปที่กลุ่มรถยนต์หนีไฟแนนซ์ หลุดจำนำ หรือซากรถชน ตามอู่ซ่อมรถยนต์ เมื่อได้รถก็จะคัดลอกเลขถังรถยนต์ สวมทะเบียน ตัดทำเล่มทะเบียนรถยนต์ เพื่อยื่นต่อเจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจ ก่อนข้ามไปส่งนายทุนฝั่ง สปป.ลาว
ส่วนกรณีข้อสงสัยว่าอาจมีเจ้าหน้าที่ไทยรู้เห็น เนื่องจากพบว่ารถยนต์บางคันที่ถูกนำออกไปแล้ว กลับมีการนำเอกสารรถกลับเข้ามาในประเทศไทย โดยไม่มีรถมาด้วย จึงคาดว่ากรณีนำเล่มรถกลับมา เพราะอาจจะนำไปใช้สวมกับรถคันอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน
เบื้องต้น พบเครือข่ายอยู่ฝั่งไทย 5 คน และมีนายทุนฝั่ง สปป.ลาว 1 คน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขอให้ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในความผิดปลอมและใช้เอกสารของทางราชการปลอม, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, นําหรือพาของที่ยังมิได้เสียค่าภาษีหรือของต้องจํากัด หรือของต้องห้าม หรือที่ยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักรไทยหรือออกไปนอกพระราชอาณาจักร พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลว่ามีการนำรถที่สวมทะเบียนดังกล่าวไปก่อเหตุอาชญากรรมหรือไม่