วันนี้ (20 ส.ค.63) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของพรรคชาติไทยพัฒนาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จากการที่พรรคชาติไทยพัฒนาได้เป็นจุดเริ่มต้นในการปฏิรูปการเมืองตั้งแต่เมื่อปี 2538 สมัยที่นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี จึงคิดว่าแนวทางการใช้ส.ส.ร.นั้น จะเป็นแนวทางเดินที่จะสามารถทำให้ช่วยลดแรงกดดันทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ และหลายฝ่ายก็เรียกหาอยู่แต่การที่จะมี ส.ส.ร.ก็ต้องมีเงื่อนไขว่าในหมวดที่ 1 และหมวดที่2 นั้นจะต้องไม่มีการปรับปรุง จะต้องไม่ไปแตะต้องเพราะเป็นสิ่งที่พวกเราคนไทยเคารพนับถือ
ในส่วนการแก้ไขมาตราอื่นนั้นไม่ว่าจะเป็นที่มาของวุฒิสภา (ส.ว.) ก็ต้องมาหารือกันเพราะก่อนหน้านี้ที่มี ส.ว.ชุดปัจจุบันก็เกิดข้อครหาขึ้น แต่เมื่อมี ส.ว.ที่มีการเลือกตั้งขึ้นมาในสมัยนั้นทางพรรคชาติไทยพัฒนาก็จำได้ว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสภาผัวเมีย สภาพ่อลูกบ้าง ก็เกิดข้อครหาเช่นกัน ฉะนั้นปัญหาเหล่านี้ทาง ส.ส.ร.จะต้องนั่งถกกันให้ดีว่าจะเอาอย่างไร จะเลือกหรือไม่เลือกต่างกันอย่างไรจะสอบถามความเห็นทั่วประเทศผ่านประชาชนหรือไม่ เพราะเราทุกคนเห็นมากันหมดแล้วทั้งเลือกตั้ง ส.ว.และแต่งตั้ง ส.ว.
ดังนั้น วันนี้จึงต้องถามกับสังคมไทยว่า เลือกตั้งหรือไม่เลือก สังคมไทยอยากได้แบบไหน คนไทยคิดว่าอย่างไร กลไกเหล่านี้ ต้องเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ร.ที่จะตัดสินว่าที่มาของ ส.ว.จะเป็นอย่างไร ดังนั้นองค์ประกอบที่สำคัญคือการหาที่มาของ ส.ส.ร.จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากพรรคชาติไทยพัฒนา เห็นว่าถึงอย่างไรก็ต้องมี 2 สภาคือสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพราะในหลายประเทศจะต้องมี 2 สภาเอาไว้คานกัน ตรวจสอบซึ่งกันและกัน
แน่นอนว่าส.ส.ร.จะต้องประกอบไปด้วยคนรุ่นใหม่ น้อง ๆที่ออกมาแสดงความเห็นกันมากมายในขณะนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีตัวแทนของพวกเขาขึ้นมา แต่ในขณะเดียวกันพรรคชาติไทยพัฒนาเห็นว่า ก็ต้องมีคนรุ่นใหญ่อยู่ด้วยเช่นกัน อย่างที่หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาเคยพูดไว้ว่าประเทศชาติถ้าไม่มีคนรุ่นใหญ่ รุ่นคุณพ่อคุณแม่ก็คงจะมาไม่ถึงวันนี้ แต่ถ้าหากไม่มีคนรุ่นใหม่ เข้ามาเสริมเราก็ไม่สามารถจะเดินต่อไปข้างหน้าได้
ดังนั้น ส.ส.ร.จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผสมผสานกัน ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่เข้าด้วยกัน เหมือนที่พรรคชาติไทยพัฒนาทำอยู่ทุกวันนี้ และคนรุ่นใหญ่จะต้องยอมรับฟังความเห็น คนรุ่นใหม่ ในขณะเดียวกันคนรุ่นใหม่เองก็ต้องพยายามเข้าใจคนรุ่นใหญ่ด้วยเช่นกันว่าที่มาที่ไปของแนวความคิดต่าง ๆ นั้นมาได้อย่างไร
และที่สำคัญการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศไทยเราทำมาหลาย 10 ครั้งแล้ว ดังนั้นจะต้องตั้งเป้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ให้ดีว่าท้ายที่สุดแล้วเราต้องการบริบทของสังคมไทยในอนาคตหลังจาก COVID-19 แล้วเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็ต้องถอยกลับมาดูว่าเป้าประสงค์ของ ส.ส.ร.ชุดที่จะมีขึ้นนั้นควรจะออกมาในรูปแบบใด
แต่อย่างไรก็ตาม ส.ส.ร.จะต้องมีความเป็นอิสระ เหมือนในสมัยที่นายกบรรหารทำนั้นเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับจากคนทุกสาขาอาชีพที่เข้ามา และได้ให้อิสระ ในการปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงเป็นความสำคัญว่าถ้ามี การตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมาทั้งคนรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่นั้นในนาทีนี้แรงกดดันทางการเมืองที่มีขึ้นในประเทศไทยขณะนี้เกิดขึ้นโดยการใช้อารมณ์เป็นตัวตั้งอยู่พอสมควร ดังนั้นการจะตั้ง ส.ส.ร.จากนี้อย่าเพิ่งทำด้วยความสะใจ อย่าเพิ่ง เอาเพื่อใช้อารมณ์เป็นตัวตัดสิน เพราะถ้าใช้อารมณ์เป็นตัวตัดสินแล้วรัฐธรรมนูญที่ออกมาก็จะเป็นรัฐธรรมนูญที่ออกมาด้วยการใช้อารมณ์
ถึงได้เน้นว่าทั้งรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่หากมีการประชุมก็ต้องเข้าใจความต้องการ และเข้าใจในเหตุผลซึ่งกันและกัน เพราะไม่เช่นนั้นถ้ารุ่นใหญ่จะเอาแต่ตัวเอง ว่าที่ผ่านมาจะเอาแบบนี้ก็คงไม่เกิดประโยชน์ หรือถ้ารุ่นใหม่บอกว่าจะต้องเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ มันก็ จะไม่จบและออกมาบูดๆ เบี้ยวๆ ดังนั้น ต้องคัดเลือกคนที่เข้ามา ทำหน้าที่ ส.ส.ร.ให้ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะเสนอแนะให้นำข้อดีของรัฐธรรมนูญปี 40 มาปรับใช้ในการแก้ไขปรับปรุงและธรรมนูญฉบับใหม่นี้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ ทุกฉบับมีทั้งข้อดีและข้อด้อย ฉบับปี 40 ข้อดีก็มีมาก แต่ก็มีข้อด้อยเหมือนกัน แม้แต่รัฐธรรมนูญปี 60 ที่เราใช้กันอยู่ปัจจุบันข้อดีก็มีข้อด้อยก็เยอะ ดังนั้นถ้าจะนำข้อดีของแต่ละฉบับมารวมกัน แล้วศึกษาข้อด้อยของแต่ละฉบับว่าเป็นอย่างไรคงต้องเป็นบทบาทของ ส.ส.ร.ที่จะต้องพิจารณาแนวทางดำเนินการ
เมื่อถามว่าบางพรรคเห็นด้วยที่จะให้มีการยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ตามข้อเสนอของภาคประชาชน พรรคชาติไทยพัฒนาเห็นอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า คงต้องมาดูกันว่าเมื่อถึงวันที่รับธรรมนูญฉบับใหม่เมื่อแก้แล้วออกมาใช้ แล้วสภาชุดนี้มีเวลาเหลืออีกเท่าไหร่ รวมไปถึงความพร้อมในการเตรียมการตามรัฐธรรมนูญนั้น มีเวลาเพียงพอหรือไม่ ดังนั้นยังตอบในขณะนี้ไม่ได้ จึงต้องดูสถานการณ์ในวันที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างเสร็จว่าจะดำเนินการกันอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะหารือเรื่องแก้ไขแล้วธรรมนูญเมื่อไหร่ นายวราวุธ กล่าวว่า ทราบว่าในวันเดียวกันนี้จะมีการพูดคุยหารือกันในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งทางพรรคชาติไทยพัฒนาได้มอบหมายให้นายนิกร จำนง ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคชาติไทยพัฒนา และผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นตัวแทนร่วมหารือ