วันนี้ (27 ส.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 พร้อมชุดสยบไพรี กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำหมายเข้าค้นบ้านพักหลังหนึ่งย่านห้วยขวาง หลังจับกุมนายเป็นไทย คำหอม ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ได้ที่บริษัทขนส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง เมื่อวานนี้ (26 ส.ค.) โดยตำรวจพบข้อมูลว่า นายเป็นไทยมีส่วนเชื่อมโยงกับขบวนการค้าเฮโรอีนข้ามชาติ ทำหน้าที่เป็นตัวรับส่งตัวการของเครือข่าย รวมถึงนำยาเสพติดไปส่งให้กับกลุ่มคนที่มีหน้าที่บรรจุยาเสพติดใส่ในกระป๋องแป้ง และบางส่วนใส่ในซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพื่อส่งต่อไปยังประเทศไต้หวัน
ขณะที่นายเป็นไทยยอมรับว่ารู้จักกับนายคิด ทวีอภิรดีบำรุง ผู้ต้องหาในเครือข่ายอีกหนึ่งคนจากการเล่นฟุตบอลมานานกว่า 1 ปี แต่ปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด แต่เมื่อต้นปี 2562 ได้รับว่าจ้างจากนายคิดให้ไปรับส่งคนจีน พร้อมล้อรถยนต์จากหมู่บ้านย่านรามคำแหง ไปยังหมู่บ้านลาดกระบัง ก่อนไปส่งต่อที่สนามบินสุวรรณภูมิ ได้รับค่าจ้าง 200,000 บาท โดยอ้างว่ารู้สึกสงสัยอาจจะเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย จึงนำคนและล้อรถไปส่งทิ้งไว้ที่โรงแรม แต่ยังไม่ได้ค่าจ้างเนื่องจากทำงานไม่สำเร็จ และไม่เคยติดต่อกันอีก จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับกุม
พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องคนดังกล่าวทำมาแล้วกว่า 10 ครั้ง พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายรับเฮโรอีนที่ซุกซ่อนในล้อรถมาจาก จ.เชียงราย โดยนายเป็นไทยทำหน้าที่รับส่งล้อรถที่บรรจุเฮโรอีนไปบ้านหลังหนึ่งย่านรามคำแหง ซึ่งมีนายวิเชียร แซ่อู๋ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ เป็นผู้บรรจุเฮโรอีนใส่ในกระป๋องแป้งและซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และบางครั้งก็นำมาบรรจุที่บ้านของนายเป็นไทยด้วย จากนั้นจะนำไปส่งให้กับชาวไต้หวันที่เดินทางมารอรับเพื่อส่งไปยังปลายทาง โดยการขนส่งแต่ละครั้งจะแตกต่างกันไป ทั้งการโหลดสิ่งของไปพร้อมกับการโดยสารเครื่องบิน หรือส่งพัสดุกับบริบริษัทรับส่งสินค้าต่างประเทศ
สำหรับยาเสพติดที่กลุ่มนี้เตรียมส่งไปไต้หวัน ส่วนใหญ่จะเป็นเคตามีน หรือ เฮโรอีน เนื่องจากได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่แนวทางการสืบสวนเชื่อว่าจะส่งต่อไปยังประเทศญี่ปุ่น และราคาค่ายาเสพติดจะสูงขึ้นหลายเท่าตัว