วันนี้ (11 ก.ย.2563) เกิดเหตุป้ายรถประจำทาง หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด ถ.ราชดำริ ล้มทับผู้โดยสารที่กำลังยืนรอรถ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบโครงเหล็กที่พักผู้โดยสารล้ม ในลักษณะหลังคาที่พักคว่ำมาที่พื้น สภาพภายในแผ่นป้ายโฆษณา หน้าจอแตก และก็หลุดมากองกับพื้น เบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน หนึ่งในนั้นเป็นชาย ศีรษะแตก ส่วนคนอื่นๆ บาดเจ็บเล็กน้อย มีรถกู้ภัยมาช่วยเหลือ นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว
นางแก้วมณี นครโสภา แม่ค่าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ใกล้ที่เกิดเหตุ เล่าว่า ระหว่างที่นั่งขายของอยู่ ได้ยินเสียงดังโครม หันไปมองตามเสียง พบว่า ที่พักผู้โดยสารล้มคว่ำ และเห็นผู้ที่รอรถคลานออกมา ต่อมามีเจ้าหน้าที่เทศกิจของสำนักงานเขตปทุมวัน มาตรวจสอบ และถ่ายรูปรายงานให้ผู้บังคับบัญชา จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ กล่าวว่า ป้ายนี้เป็นความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร เพราะมีโลโก้ติดอยู่
โฆษก กทม.แจงเสาเป็นสนิมเหตุป้ายรถเมล์ล้ม
ล่าสุด ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางสำนักงานเขตปทุมวัน ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ของเขตเข้าตรวจสอบเบื้องต้นทันที พบว่าบริเวณดังกล่าวเกิดน้ำท่วมขังเป็นประจำ ทำให้เสาเป็นสนิม และพังลงมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการล้อมพื้นที่ไว้ และจะดำเนินการรื้อถอนให้แล้วเสร็จ
ส่วนป้ายรถเมล์ดังกล่าวอยู่ในความดูแลของบริษัทเอกชน ที่ได้รับสัมปทาน ขณะนี้เอกชนรายเก่าหมดสัญญา จึงอยู่ระหว่างเปลี่ยนถ่ายกับเอกชนรายใหม่ ซึ่งป้ายรถเมล์ดังกล่าว อยู่ในแผนที่จะดำเนินการเปลี่ยนเป็นป้ายรถเมล์อัจฉริยะ ทั้งนี้ ป้ายรถเมล์ทั่วกรุงเทพมีจำนวน 2000กว่าป้ายหลังจากนี้จะให้ทางเอกชนผู้รับผิดชอบเข้าดำเนินการตรวจสอบความแข็งแรงของป้ายต่อไป
ด้านนางมาศวัล มาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผอ.เขตปทุมวัน ระบุว่า หลังทราบเรื่องทางเขตไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบทันที เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ทำให้ป้ายรถเมล์ล้ม โดยสั่งการให้นำรถเครนเข้ามาทำการเคลื่อนย้ายป้ายรถเมล์ทางล้มในบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นทราบว่า มีการนำส่งรักษาตัวอยู่หลายแห่ง อยู่ระหว่างประสานเพื่อขอข้อมูลผู้บาดเจ็บ เพื่อสอบถามอาการ อย่างไรก็ตาม ทาง สจส.กทม.แจ้งว่า มีประกันดูแลค่ารักษาพยาบาลให้แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุนี้ จึงขอให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ไปรักษาตัว สามารถนำเอกสารการรักษาพยาบาล ติดต่อไปยัง สจส.กทม.หมายเลข 0-23541230 ในวันและเวลาราชการ