ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

การจากไปของ "เจมส์ ฮอร์เนอร์" กับงานเพลงที่ฝากไว้ในฮอลลีวู้ด

ศิลปะ-บันเทิง
24 มิ.ย. 58
03:31
709
Logo Thai PBS
การจากไปของ "เจมส์ ฮอร์เนอร์" กับงานเพลงที่ฝากไว้ในฮอลลีวู้ด

ความยอดเยี่ยมของ Titanic และ Avatar ในฐานะภาพยนตร์รายได้สูงสุดตลอดกาล ไม่เพียงมาจากวิสัยทัศน์ของ เจมส์ คาเมรอน เท่านั้น แต่ยังมาจากจินตนาการด้านดนตรีอันยอดเยี่ยมของ เจมส์ ฮอร์เนอร์ นักแต่งเพลงชื่อดังอีกด้วย ซึ่งการจากไปของเขาจึงถือเป็นการสูญเสียของวงการอย่างแท้จริง

อารมณ์ที่สื่อความเศร้า แต่ยังเต็มเปี่ยมด้วยศรัทธาแห่งรัก ใน My Heart Will Go On เพลงประกอบภาพยนตร์รางวัลออสการ์ปี 1998 คือสิ่งพิสูจน์ฝีมือการประพันธ์ดนตรีอันยอดเยี่ยมของ เจมส์ ฮอร์เนอร์ นักแต่งเพลงชาวอเมริกันที่ส่งให้ซาวด์แทร็ก Titanic กลายเป็นอัลบั้มประกอบภาพยนตร์ยอดขายสูงสุดกว่า 30 ล้านชุด ซึ่งวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2015 นักแต่งเพลงวัย 61 ปีที่วงการยกย่องให้เป็นหนึ่งในคอมโพสเซอร์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งยุค ต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก เมื่อเครื่องบินเล็กที่เขาเป็นผู้ควบคุมตกในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติลอส ปาเดรส ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย 
 
เจมส์ ฮอร์เนอร์ ประสบความสำเร็จครั้งแรก เมื่อ Somewhere Out There เพลงประกอบการ์ตูนดัง An American Tail คว้ารางวัลเพลงแห่งปีจากเวทีแกรมมี อวอร์ดส์ เมื่อปี 1988 จากนั้นเมโลดี้อันอ่อนหวานและอบอุ่นของเขาก็ปรากฏในหนังครอบครัวมากมายทั้ง Willow, Jumanji, Field of Dreams รวมถึงเป็นเจ้าของบทเพลง If We Hold on Together ซาวด์แทร็กการ์ตูน The Land Before Time ผลงานชื่อดังของ ไดอาน่า รอส 
 
ทำนองเพลงฮึกเฮิมของเขา เป็นองค์ประกอบของหนังดังมากมาย ทั้งใน Glory, Legends of the Fall, Deep Impact, Troy โดยเพลงจาก Aliens ยังถูกนำไปใช้ในตัวอย่างภาพยนตร์อื่นๆ มาแล้วถึง 24 ครั้ง โดยปี 1995 เจมส์ ฮอร์เนอร์ส่งผลงานเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 2 เรื่องพร้อมกัน คือ Apollo 13 และ Braveheart ซึ่งบทเพลงทรงพลังของฮอร์เนอร์ยังมีส่วนสำคัญที่ส่งให้หนังของ เมล กิ๊บสัน คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกด้วย 
 
หลังคว้าออสการ์ทั้งสาขาเพลงประกอบและดนตรีประกอบได้สำเร็จจาก Titanic ในปี 1998 เจมส์ ฮอร์เนอร์ ก็มีโอกาสร่วมงานในหนังฟอร์มใหญ่มากมาย รวมทั้งกลายเป็นนักแต่งเพลงคู่บุญของผู้กำกับชั้นนำหลายคน รวมถึง เจมส์ คาเมรอน ที่เขาใช้เวลาถึง 2 ปีโดยไม่รับงานใดๆ เลย เพื่ออุทิศเวลาให้กับการแต่งเพลงประกอบหนัง Avatar ซึ่งเขายังเตรียมที่กลับมาแต่งเพลงให้กับโครงการภาคต่อหนัง Avatar อีกครั้ง ก่อนที่อุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดฝัน จะทำให้แผนดังกล่าวไม่อาจเป็นจริงได้ 
 
การจากไปของ เจมส์ ฮอร์เนอร์ ได้รับการไว้อาลัยจากบุคลากรในวงการบันเทิงมากมายทั้งจากผู้กำกับ และเพื่อนนักแต่งเพลงร่วมวงการ รวมถึงคำไว้อาลัยจาก ซีลีน ดิออน ผู้กลายเป็นดีว่าแถวหน้าเพราะความโด่งดังของ My Heart Will Go On ซึ่งความสำเร็จตลอดเส้นทางดนตรีของ เจมส์ ฮอร์เนอร์ เป็นผลมาจากทัศนคติในการมองการแต่งดนตรีประกอบภาพยนตร์ว่าไม่ใช่แค่งานที่ต้องทำให้ลุล่วง แต่เป็นการสร้างสรรค์ศิลปะที่ต้องใช้หัวใจ และความคิดสร้างสรรค์เพื่อเข้าถึงใจของผู้ฟัง 
 
จากการเป็นนักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ที่งานชุกที่สุดในวงการ ทำให้ เจมส์ ฮอร์เนอร์ ยังมีเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ยังไม่ออกฉายทั้งเรื่อง The 33 และ Southpaw ซึ่งก็กลายเป็นผลงานการประพันธ์ 2 ชิ้นสุดท้ายของเขาไปโดยปริยาย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง