วันนี้ (9 ธ.ค.2563) นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมแถลงข้อเท็จจริงการสั่งคดีของนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กรณีให้เงินเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 20 ล้านบาท แลกกับการได้สิทธิเช่าที่ดินระยะยาว บริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ย่านชิดลม มูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยไม่ผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติ
นายอิทธิพร เปิดเผยว่า สำนวนคดีนี้เป็นของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ส่งสำนวนคดี และอัยการรับสำนวนเดือน เม.ย.2562 โดยในสำนวน พบว่าประมาณปี 2560 นายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช นายหน้าค้าที่ดิน ซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ ได้ไปพบกับนายสกุลธร พร้อมเสนอที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้เช่าจำนวน 2 แปลง และมีการทำสัญญาเช่า
จำเลยที่ 1 ปลอมเอกสารรับรองบริษัท
โดยมีนายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ เจ้าหน้าที่ทรัพย์สินฯ จำเลยที่ 1 ร่วมกันกับจำเลยที่ 2 ได้แนะนำให้นายสกุลธร ยื่นเอกสารสัญญาเช่าตามขั้นตอนปกติ จึงมีการจ่ายเงินค่านายหน้ากันขึ้นในขั้นตอนนี้ จากนั้น จำเลยที่ 1 ได้ปลอมแปลงหนังสือเอกสารรับรองว่า บริษัทของนายสกุลธร ได้รับการยืนยันว่า เป็นผู้เช่าที่ดินดังกล่าว โดยจำเลยที่ 1 ได้มอบเอกสารให้จำเลยที่ 2 เพื่อนำไปส่งให้นายสกุลธร จึงมีการจ่ายเงินค่านายหน้า เป็นงวดที่ 2
แต่ต่อมา นายสกุลธรพบว่าบริษัทของตัวเองยังไม่ได้รับสิทธิในการทำสัญญาเช่าพื้นที่ดินดังกล่าว จำเลยจึงการปลอมแปลงเอกสาร เพื่อนัดประชุมผู้บริหารลงนามรับรอง นายสกุลธรจึงจ่ายเงินให้อีก 1 งวด แต่เมื่อถึงวันนัดประชุมผู้บริหาร กลับมีการยกเลิกการประชุมดังกล่าวไป นายสกุลธรจึงมีการทวงถาม เพื่อขอเงินคืน ซึ่งจำเลยทั้ง 2 คน ได้คืนเงินให้นายสกุลธร จำนวน 7 ล้านบาท
สำนวนคดี "กองปราบฯ" ไม่ได้กล่าวหา
และในตอนท้ายของสำนวนการสอบสวนคดีนี้ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ให้ความเห็นไว้ว่าอยู่ระหว่างการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานว่านายสกุลธร มีพฤติกรรม เข้าข่ายความกระทำผิดกฎหมายข้อใดบ้าง ดังนั้น ยืนยันว่าในสำนวนที่พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ส่งให้อัยการพิจารณาสั่งคดี ไม่ได้มีการกล่าวหานายสกุลธรมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อัยการจึงไม่มีอำนาจในการสั่งพิจารณาคดีในส่วนของนายสกุลธรได้ เพราะในสำนวนส่งมานั้น มีการกล่าวหาเฉพาะเจ้าหน้าที่ทรัพย์สินฯ และนายหน้าค้าที่ดินอิสระเพียง 2 คนเท่านั้น
ส่วนขั้นตอนการสอบสวนดำเนินคดีของนายสกุลธร คงเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพราะยึดตามความเห็นแนบท้ายที่อ้างว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการ ดังนั้น อัยการคงไม่ไปสามารถก้าวก่ายหน้าที่ของพนักงานสอบสวนได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง