กองทัพเรือเล็งเสนอส่งทหารเรือติดอาวุธคุ้มกันเรือสินค้าในพื้นที่เสี่ยง
พล.ร.ท.ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารเรือ ฝ่ายยุทธการ เปิดเผยว่า ภัยคุกคาม หรือผู้ก่อการร้ายระดับโลกในน่านน้ำเอเดน ประเทศโซมาเลีย คือ โจรสลัดโซมาเลียได้สร้างความสูญเสีย ในการปล้นเรือสินค้าของประเทศต่างๆ ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายนับล้านล้านบาท จากสถิติโจรสลัดโซมาเลียปล้นเรือสินค้าที่เเล่นผ่านทะเลเเดง ซึ่งเป็นเส้นทางเรือไปยังยุโรปใต้นั้น ตั้งเเต่ปี 2551 มีเหตุการปล้นเรือ 100 ครั้ง ในปี 2552 ปล้นเรือ 409 ครั้ง ปีนี้สถิติเรือสินค้าถูกปล้นพุ่งสูงขึ้นทันที หลังจากที่โจรสลัดสามารถปฏิบัติปล้นเรือได้สำเร็จ เเละมีวิธีการทำงานอย่างเป็นระบบ
เเละหลังจากที่เรือสินค้าประสบปัญหาถูกโจรสลัดปล้นเรือติดต่อกัน กองทัพเรือนานาชาติจึงร่วมมือกันส่งเรือรบ ยุทธโธปกรณ์ เเละกำลังพล เข้าร่วมคุ้มกันเรือสินค้าที่เดินทางผ่านมายังน่านน้ำเอเดน จนในปี 2553 สถิติเรือสินค้าถูกปล้นลดลงมา 140 ครั้ง เเต่ว่าด้วยความยากจนของชาวโซมาเลีย ชีวิตความเป็นอยู่อย่างลำบากเเร้นเเค้น ทำให้ทหารนอกเเถว หรือเเม้เเต่ชาวประมงออกมาปล้นเรือสินค้าอีก ทำให้ในปีนี้ตั้งเเต่เดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน เรือสินค้าหรือเรือบรรทุกน้ำมันถูกปล้นไปเเล้วกว่า 100 ครั้ง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา เรือ MSC NAMIBIA 2 สัญชาติ ไลบีเลีย ขนาด 24,000 ตัน ถูกโจรสลัดโซมาเลียโจมตี โดยเรือ skiff สีขาวคาดน้ำเงิน วิ่งเข้าหาเรือสินค้าด้วยความเร็วสูง เเละทำการยิงจรวด RPG เข้าใส่ 2 ลูก กัปตันเรือจึงเเจ้งมายังเรือหลวงสิมิลัน ซึ่งลาดตระเวนอยู่ในพื้นที่ เรือหลวงสิมิลันจึงสั่งการให้ ฮ.bell 212 บินขึ้นไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อขัดขวางการโจมตี ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ กองทัพเรือไทยสามารถปกป้องชีวิต เเละทรัพย์สินของเรือสัญชาติไลบีเรียได้ เเละส่งต่อการไปยังเรือลาดตระเวนที่อยู่ในพื้นที่ถัดไป เเละจากความร่วมมือของกองทัพเรือนานาชาติที่กดดันโจรสลัดโซมาเลียอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาค่าไถ่พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ขณะที่โจรสลัดโซมาเลียขยายพื้นที่การปล้นจาก 300 ไมล์ทะเลไปจนถึงประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นระยะทางกว่า 1000 ไมล์ทะเล เเละทำให้ค่าไถ่เรือที่ถูกปล้นพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว
ส่วนสิ่งบอกเหตุในการพิสูจน์ทราบว่าเรือถูกโจรสลัดตามมา คือ จะเป็นชาวเเอฟริกันผิวสีดำ เรือประมงไม่อยู่ในพื้นที่ทำการประมง ใช้เรือขนาดเล็ก ซึ่งติดถังน้ำมันมาด้วย ติดอาวุธ มีบันไดอยู่ในเรือ เเละอุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำประมง หากเรือบรรทุกลำใดสังเกตเห็นให้เตรียมพร้อม เเละเเจ้งไปยังเรือหลวงของกองทัพไทยโดยทันที ซึ่งทางกองทัพเรือ กำลังเสนอกระทรวงกลาโหม ให้อนุมัติให้กำลังพล พร้อมกับอาวุธครบมือ ขึ้นไปคุ้มกันให้กับเรือสินค้า เนื่องจากเรือสัญชาติอื่น พลเรือนติดอาวุธ รวมถึงเจ้าหน้าที่ เป็นคนคอยคุ้มกันเรือ เเละสามารถป้องกันโจรสลัดได้ 100 เปอร์เซ็นต์