เกษตรกรโอดปาล์มราคาตก จี้กระทรวงพาณิชย์ช่วย

เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ตัดผลปาล์มน้ำมัน ส่งขายให้นิคมสหกรณ์ปลายพระยา กิโลกรัมละ 5.70 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงกว่าลานเทรับซื้อของเอกชน

เเต่ราคามีแนวโน้มว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง จากเมื่อสัปดาห์ก่อน ราคารับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 6.20 บาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับผลผลิตที่ออกน้อยในช่วงหน้าแล้ง

นางจันทร์เพ็ญ ชิดเชื้อ เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ประธานกลุ่มปาล์มน้ำมันแปลงใหญ่ ต.ท่าสะบ้า อ.วังวิเศษ จ.ตรัง บอกว่า ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันที่ลดต่ำลง เกิดจากภาวะหน้าโรงงาน จากเดิมไม่มีผลผลิตทำให้ราคาสูง

แต่ขณะนี้ผลผลิตเริ่มออก แต่ยังไม่มาก โรงงานจึงใช้เป็นข้ออ้างว่า ผลผลิตปาล์มมาก ราคาจึงลดลง เกษตรกรเชื่อว่าเป็นการกดราคา จึงเรียกร้องรัฐบาลเร่งจัดทำโครงสร้างราคาปาล์มน้ำมัน และออก พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันโดยด่วน

ส่วนการดูเเลเบื้องต้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ส่งสายตรวจ ตรวจสอบ ราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่มากกว่า 5.20 บาทต่อกิโลกรัม

รมว.พาณิชย์กล่าวว่า หากพบว่ามีการฉวยโอกาสกดราคารับซื้อ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หากพบว่ามีการกระทำผิด จะมีโทษสูงสุดจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กระทรวงพาณิชย์ทราบดีว่า ราคาผลปาล์มน้ำมันที่สูงขึ้นดังกล่าว ยอมส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด โดยเฉพาะแม่ค้าที่ขายของทอด และแม่บ้าน ซื้อเพื่อใช้ในครัวเรือน

รวมทั้งอาจมีผลต่อโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ เพราะราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในท้องตลาดปรับสูงขึ้น เป็นลิตรละ 48 บาท บางพื้นที่อาจจะเเพงกว่านี้

นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ประสานผู้ผลิตและผู้ค้าส่ง ค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ให้ช่วยตรึงราคาในระดับเฉลี่ยต่อขวดลิตรละ 48-49 บาท ให้นานที่สุดและขอให้ผู้บริโภคลดภาระโดยใช้น้ำมันทางเลือกอื่น เช่น น้ำมันถั่วเหลือง

กระทรวงพาณิชย์จะพยายามบริหาร และจัดการให้ทุกฝ่ายให้เกิดความเป็นธรรม และอยู่ร่วมกันได้ โดยผลปาล์มจะเริ่มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน จึงขอโอกาสนี้ให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่จะขายผลปาล์มได้ราคาดีขึ้นไปในระยะหนึ่ง