ไทยพีบีเอสออนไลน์ได้คุยกับชายวัย 37 ปีคนหนึ่ง ผลตรวจ COVID-19 ของเขาเป็นบวก สอบสวนพบว่าติดเชื้อจากแฟนสาว ที่มีเพื่อนติด COVID-19 หลังจากโรงพยาบาลโทรมาแจ้งผลตรวจ เจ้าหน้าที่บอกว่าให้เขารออยู่ที่บ้านหนึ่งวัน เพราะโรงพยาบาลไม่มีเตียง พร้อมให้จัดกระเป๋าเสื้อผ้าจำนวน 10 ชุด
ขณะที่อยู่บ้าน ชายวัย 37 ปี เริ่มมีไข้ 38 องศาฯ ปวดเมื่อยตามร่างกาย มีอาการเหล่านี้ต่อเนื่องถึงวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันที่โรงพยาบาลส่งรถมารับ เขาขึ้นรถด้วยอาการอ่อนเพลีย และงีบหลับตลอดทาง เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบว่า รถพยาบาลมาจอดอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านสมุทรปราการ
เจ้าหน้าที่ให้เขาเข้าไปในโรงแรม จากนั้นก็ตรวจสุขภาพเบื้องต้น และเอกซเรย์ปอด ด้วยรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ตรวจเสร็จแล้วให้ขึ้นไปที่ห้องพัก พร้อมกับเพื่อนร่วมห้องหนึ่งคน ที่ติดเชื้อ COVID-19 เช่นกัน
ภายในห้องมีอุปกรณ์และสิ่งของตามมาตรฐานของห้องแบบธรรมดา มีเตียงเดี่ยว 2 เตียง ห้องน้ำ 1 ห้อง ตู้เย็น 1 ตู้ ที่แขวนเสื้อผ้า และระเบียงที่ปิดตาย
เขาบอกว่า มีของสองสิ่งที่เขาที่ไม่เคยเห็นในโรงแรมมาก่อน นั่นคือ กะละมังและผงซักฟอก
ดูจากอุปกรณ์ทุกอย่างแล้ว เขาเริ่มชัดเจนว่าที่นี่คือ Hospitel
เจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งเลยว่าจะพาไปที่ไหน ตอนขึ้นรถก็หลับเพราะไม่ไหว ตอนนั้นจะพาไปไหนก็ไป
ไทยพีบีเอสออนไลน์ ถามเขาว่าการดูแลรักษาผู้ป่วย COVID-19 ใน Hospitel เป็นอย่างไร เขาเล่าว่า ทุกอย่างเป็นการรักษาตามอาการ วันแรกของเขาที่เข้าพัก 13 เม.ย.2564 เขายังคงมีไข้ต่อเนื่อง ยังปวดเมื่อยตามร่างกาย ไม่ไอ แต่ลิ้นและปากเริ่มขม ไม่มีหมอมาดูอาการ แต่มีพยาบาลจัดยาลดไข้ (พาราเซตามอล) และยาแก้ปวด (ไอบูโพรเฟน) มาให้
โรคนี้ทรมานมาก ไข้จะขึ้นสูงก่อนเที่ยงคืน หวาน สั่น หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป จะร้อนมาก เหงื่อท่วมตัว ผมกินยาแค่ 2 ตัวนี้เท่านั้น
ใน Hospitel เจ้าหน้าที่จะดูแลผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง และจะตั้งไลน์กลุ่มให้กับผู้ป่วยเพื่อใช้แจ้งข้อมูลและแจ้งความต้องการของผู้ป่วย เพื่อลดการสัมผัสและเว้นระยะห่าง และถ้าพบใครมีไข้สูงติดต่อกัน 3 วัน เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลทันที
19 เม.ย.2564 เป็นวันที่ 6 ของการรักษา วันนี้ไข้และอาการปวดเมื้อยทั้งหมดของเขาหายไปแล้ว และเขาได้คุยกับหมอเป็นครั้งแรก ผ่านทางวิดีโอคอล หมอสอบถามอาการของเขาและพูดคุยอยู่พักหนึ่ง
ตอนนี้ผมกินได้เยอะขึ้น อยากกินอะไรหลายอย่าง เพราะปากกับลิ้นไม่ขมแล้ว
เขาเล่าว่า ทุกวันที่อยู่ในโรงแรมเขาพยายามฝึกกลั้นหายใจ ตามคลิปที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเขาสามารถกลั้นหายใจได้ แสดงว่าปอดของเขายังปกติ ประกอบกับพยาบาลไม่เคยแจ้งผลเอกซเรย์ปอดของเขาเลย จึงมั่นใจว่าปอดของเขาไม่มีปัญหา ต่างจากเพื่อนที่ป่วย COVID-19 แล้วเชื้อลงสู่ปอด ทำให้ปอดติดเชื้อและไอไม่หยุด
เขาเล่าถึงเพื่อนผู้ป่วยร่วมห้องว่า เพื่อนของเขามีอาการคล้ายกัน ไม่ไอ มีไข้ และปวดเมื้อย ซึ่งเพื่อนก็ได้กินยาแบบเดียวกัน และสุดท้ายอาการเหล่านั้นก็หายไปเช่นกัน
เขาได้กล่าวทิ้งท้ายว่า Hospitel ไม่เหมือนโรงพยาบาลแน่นอน เพราะไม่มีหมอ ไม่มีเครื่องมือแพทย์ใด ๆ ช่วงแรกอาจจะเครียดกับอาการป่วย แต่เมื่ออาการดีขึ้นก็เข้าใจว่า ผู้ป่วยที่ไม่ได้มีอาการรุนแรง หรือเชื้อลงสู่ปอดจนไม่สามารถหายใจเองได้ สามารถอยู่ที่นี่ได้ และไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนรู้สึก และเขาหวังว่าหากอาการยังดีขึ้นต่อเนื่อง เขาอาจจะได้กลับไปหาครอบครัวภายในเดือนนี้