วันนี้ (1 ก.ค.2564) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทย ระลอก 3 ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-1 ก.ค.2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,533 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 3,788 คน ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 1,689 คน และติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 44 คน ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 คน รวมผู้ป่วยสะสม 235,971 คน เสียชีวิต 57 คน ผู้เสียชีวิตสะสม 1,986 คน
หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 3,223 คน หายป่วยสะสม 183,276 คน และยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล 52,052 คน ทั้งนี้ หากนับรวมตั้งแต่ปี 2563 ผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 264,834 คน เสียชีวิตสะสม อยู่ที่ 2,080 คน และหายป่วยสะสม อยู่ที่ 210,702 คน
ผู้เสียชีวิต 57 คน ได้แก่ กรุงเทพฯ 34 คน, สมุทรปราการ 9 คน, ปทุมธานี นครปฐม จังหวัดละ 2 คน, เชียงราย ชัยภูมิ สุพรรณบุรี นครศรีธรรมราช นราธิวาส สมุทรสาคร ชุมพร จังหวัดละ 1 คน
สำหรับปัจจัยเสี่ยงมาจากโรคประจำตัว 3 โรค คือความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง สัมผัสติดเชื้อจากคนในครอบครัว มีอาชีพเสี่ยง และไปในสถานที่คนหนาแน่น แบ่งออกเป็นชาย 30 คน และหญิง 27 คน
ฉีดวัคซีนรวมสะสม 77 จังหวัด 9.9 ล้านโดส
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. - 30 มิ.ย.2564 รวม 9,927,698 โดส ใน 77 จังหวัด จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 7,110,854 คน และผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 จำนวน 2,816,844 คน
ส่วนจำนวนการได้รับวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 รวม 5,827,177 โดส ผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 รวม 4,340,607 คน และผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 รวม 1,486,570 คน
ทั้งนี้ วัคซีนป้องกัน COVID-19 จะเข้ามาตั้งแต่วันที่ 5 - 11 ก.ค.นี้ จำนวน 1 ล้านโดส ซึ่งจะเน้นฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มโรคเสี่ยง 7 โรค และในเดือน ก.ค.นี้ จะมีวัคซีนเข้ามาจำนวน 10 ล้านโดส
พบคลัสเตอร์ใหม่ 2 จังหวัด
ขณะที่ ในวันนี้มีคลัสเตอร์ใหม่ในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ โรงงานไก่ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม มีผู้ติดเชื้อรวม 104 คน และวิทยาลัยเทคนิค อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว มีผู้ติดเชื้อ 11 คน
คนออกจาก กทม.-ปริมณฑล เชื้อกระจาย 32 จังหวัด
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในต่างจังหวัด ซึ่งมีประวัติเป็นผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล มากถึง 32 จังหวัด กระจายในพื้นที่ทุกภาคทั่วประเทศ
ได้แก่ ภาคเหนือ 6 จังหวัด จากทั้งหมด 18 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด จากทั้งหมด 20 จังหวัด ภาคกลางและภาคตะวันออก 9 จังหวัด จากทั้งหมด 25 จังหวัด
ภาคใต้ 1 จังหวัด จากทั้งหมด 14 จังหวัด ซึ่งรวมกับกรุงเทพฯ และปริมณฑล 4 จังหวัด รวมเป็น 32 จังหวัด ขณะที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวม 71 จังหวัด และมีเพียง 4 จังหวัดเท่านั้นที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เลย
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ศบค.จึงขอให้ผู้ที่จะเดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่เดินทางไปจังหวัดอื่นๆ แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบก่อนเข้าพื้นที่ เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง
ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ห้ามการเดินทางแต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการของแต่ละพื้นที่ เนื่องจากมีหลายกรณีที่กลับไปถึงแล้วตั้งวงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเล่นการพนัน จนนำไปสู่การแพร่เชื้อสู่คนในชุมชน
นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำไปยังโรงพยาบาลทุกแห่งตามต่างจังหวัด หากพบผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบ ไข้ ไอ และมีเสมหะ จะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในทุกกรณี
ทั่วโลกพบติดเชื้อสะสม 182 ล้านคน
ขณะที่สถานการณ์COVID-19 ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 182,975,530 คน อาการรุนแรง 79,223 คน รักษาหายแล้ว 167,554,646 คน เสียชีวิต 3,962,781 คน
ส่วน 5 อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1. สหรัฐอเมริกา 34,540,845 คน 2. อินเดีย 30,410,577 คน 3. บราซิล 18,559,164 คน 4. ฝรั่งเศส 5,775,301 คน 5. รัสเซีย 5,514,599 คน ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 72 จำนวน 264,834 คน
