วันนี้ (2 ก.ค.2564) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยแผนจัดเตรียมศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ศูนย์เสริมสุขทุกวัย ซอยเพชรเกษม 69 ว่า การจัดตั้งศูนย์พักคอยไม่ใช่การตั้งโรงพยาบาลสนาม ไม่ใช่สถานที่รักษาผู้ป่วยหนัก แต่เพื่อแบ่งเบาภาระสถานพยาบาล ทั้งในระดับสีแดง เหลือง เขียว หลัง Hospitel ที่ไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ผู้ป่วยในปัจจุบัน โดยมีจุดพักคอยของวัดสะพานที่มีขึ้นมาเมื่อ 3 เดือนก่อนหน้า เป็นต้นแบบ
ผู้ว่าฯ กทม. ระบุถึงหลักการใช้ประโยชน์ในศูนย์พักคอย คือ การรองรับผู้ป่วยติดเชื้อที่อาการไม่หนัก แยกออกมาพักคอยระหว่างรอเตียง ก่อนจะส่งต่อรักษาในสถานพยาบาลตามอาการป่วย ซึ่งในระหว่างที่อยู่ในศูนย์พักคอยจะให้ยา เช่น ฟาวิพิราเวียร์ ฟ้าทะลายโจร กระชายอัดเม็ด และน้ำขิง
หลักสำคัญอีกเรื่องของการตั้งศูนย์พักคอย คือ แยกผู้ป่วยออกจากชุมชน ครอบครัว เพื่อลดการแพร่เชื้อสู่บุคคลใกล้ชิดและคนในชุมชน
พล.ต.อ.อัศวิน ยอมรับปัจจุบันมีผู้ป่วยตกค้างในบ้านจำนวนมาก หากสามารถจัดตั้งศูนย์พักคอยได้ครบ 6 กลุ่มเขต จะลดภาวะผู้ป่วยตกค้างในบ้านได้ โดยตั้งเป้าจัดตั้งศูนย์พักคอยในกลุ่มเขตละ 1 แห่ง และจะทยอยเปิดดำเนินการศูนย์พักคอยในวันจันทร์ที่ 5 ก.ค.นี้
ขณะที่พระพิศาลธรรมานุสิฐ เจ้าอาวาสวัดสะพาน คลองเตย ร่วมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการดูแล จัดการศูนย์พักคอย ว่า ที่วัดสะพานจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวประมาณ 3 เดือน แบ่งเบาความหนาแน่นของสถานพยาบาลได้ และสามารถดูแลผู้ป่วยในระยะแรกได้โดยไม่เสี่ยงแพร่เชื้อต่อคนใกล้ชิดทั้งในบ้านและชุมชน
ศูนย์พักคอยแม้จะไม่ใช่โรงพยาบาลสนาม แต่ไม่ต่างกันมากนัก ต้องมีเจ้าหน้าที่อยู่ดูแลประจำการกับผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับแผนจัดตั้งศูนย์พักคอยในกรุงเทพฯ คือ จะตั้งศูนย์ตามกลุ่มเขตพื้นที่บริหารสถานการณ์โควิด-19 ซึ่ง 1 เขตจะตั้งศูนย์ขึ้นมา 1 แห่ง ปัจจุบันมีศูนย์พักคอย 2 แห่ง คือ วัดสะพาน คลองเตย และศูนย์สร้างสุขทุกวัย (เรืองสอน) ในซอยเพชรเกษม 69 คาดว่ารองรับผู้ป่วยได้ 100 เตียง จากนั้นจะทยอยตั้งศูนย์ใน 4 กลุ่มเขตที่เหลือ
