วันนี้ (24 ก.ค.2564) ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์สรุปผลการปฏิบัติการ "แพทย์ชนบทบุกกรุง ครั้งที่ 2" ผ่านเพจชมรมแพทย์ชนบท ระบุว่า การปฏิบัติการพิเศษ 3 วันคือ 21-23 ก.ค.2564 โดย 16 ทีมของแพทย์ชนบท และร่วมกับโรงพยาบาลต่าง ๆ จากต่างจังหวัด ลงมือ swab ผู้คนด้วย Rapid Antigen Test เมื่อผลเป็นบวกจะได้ทำ rtPCR ให้ทันที และนำเข้าระบบ Home Isolation ทั้งนี้มีหลายคนได้รับ home favipiravir ด้วยเนื่องจากเป็นกลุ่มผู้ป่วยเหลืองเข้ม แต่ยังต้องรอเตียงอยู่ที่บ้าน
แม้เป็นความเหนื่อยยากลำบากที่สำคัญยิ่ง สามารถดูแลผู้คนในเมืองกรุงฯ โดยเฉพาะคนที่ด้อยโอกาส คนที่เข้าไม่ถึงบริการสุขภาพ ในชุมชนแออัดทั้งสิ้น 40 จุด ตรวจได้จำนวน 31,518 คน ผลพบว่า เจอผู้ติดเชื้อโควิดถึง 5,086 คน หรือมีผลบวกถึง 16.14% ถือว่าสูงมาก ๆ อัตราการทำ rtPCR เกิน 100% เพราะบางรายมีผล rapid test แล้วหาที่ทำ rtPCR ไม่ได้ เลยต้องมาขอต่อคิวทำ rtPCR ในการปฏิบัติการครั้งนี้
ในการบุกกรุงฯ ครั้งแรก 14-16 ก.ค.2564 ชมรมแพทย์ชนบทปฏิบัติการไป 19,871 คน พบผลบวก 1,777 คน หรือ 8.94% ผลบวกครั้งแรกสูงจนน่าตกใจแล้ว ผลบวกครั้งที่ 2 กลับสูงขึ้นไปอีก
เมื่อรวม 2 ครั้ง ปฏิบัติการแพทย์ชนบทบุกกรุงฯ ตรวจพี่น้องประชาชนไปทั้งสิ้น 51,389 คน พบผลบวก 6,863 คน คิดเป็น 13.35% นี่คือสิ่งที่เราค้นพบ
อัตราการติดเชื้อใน กทม.นั้น มีอัตราการติดเชื้อโควิดสูงมาก ๆ
คำถามใหญ่คือ เมื่อสถานการณ์การระบาดในกรุงเทพฯ หนักมาก แล้วเราจะทำอย่างไร จึงจะช่วยให้เมืองกรุงฯ รอดพ้นจากวิกฤตโควิดนี้ให้ได้ นี่คือคำถามที่ทั้งรัฐบาลและสาธารณชนต้องร่วมกันหาคำตอบ คำตอบสำเร็จรูปหรือคำตอบคำตอบเดียวคงไม่มี
คำตอบสำหรับคำถามที่ยากยิ่งนี้ สำหรับชมรมแพทย์ชนบทนั้น จะหารือกันอย่างเข้มข้น แล้วเราจะเสนอแนวทางพร้อมลงมือปฏิบัติการด้วยต่อไป "ปฏิบัติการบุกกรุงฯ ครั้งที่ 3 ด้วยความร่วมมือที่กว้างขวางจากทุกฝ่ายทั้งรัฐและเอกชน เราจะกลับมาอีก เพื่อกู้ภัยโควิดในกรุงเทพมหานคร หากเมืองหลวงรอดประเทศไทยก็จะรอด