วันนี้ (22 ส.ค.2564) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พร้อมคณะ กล่าวถึง มาตรการเตรียมการรับมือการชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า ในบ่ายวันนี้ที่บริเวณแยกคอกวัวไปจนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และอีกคือกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ทะลุแก๊ซ ที่อาจจะมีการชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดง และถนนวิภาวดีรังสิต ว่า ในช่วงเย็นวันนี้เจ้าหน้าที่จะยังคงใช้การจัดกำลังตามสถานการณ์การชุมนุมของแต่ละพื้นที่และจะเริ่มปิดการจราจรช่วงก่อนการชุมนุมประมาณ 1 ชม.ซึ่งขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่ในช่วงเวลาดังกล่าว
สำหรับการชุมนุมเมื่อวานนี้ (21 ส.ค.2564) ที่บริเวณถนนดินแดงและวิภาวดีรังสิต ของกลุ่มทะลุแก๊ซ พบว่า มีการเคลื่อนกำลังผ่านไปบนถนนวิภาวดีรังสิตพร้อมกับใช้ประทัดยักษ์และวัตถุทรงกระบอกคล้ายไปป์บอมหรือระเบิดแสวงเครื่อง ปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจและสถานที่ราชการเช่น กองดุริยางค์ทหารบก อุปกรณ์โทรศัพท์ฉุกเฉินบนทางด่วน และตู้เก็บเงิน จนเกิดความเสียหาย
อีกทั้งยังมีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานของวัตถุที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจากนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ให้มีการยกเลิกการใช้สิ่งกีดขวางบริเวณถนน วิภาวดีรังสิตและถนนดินแดง
ซึ่งเมื่อวานนี้เป็นวันแรกที่เริ่มมีการปรับใช้ตามแผนของ ผบ.ตร.แต่ก็พบว่า ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าก่อเหตุในพื้นที่จึงจำเป็นต้องนำกำลังของตำรวจควบคุมฝูงชนเข้าไปควบคุมสถานการณ์ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะแยกย้ายกันออกไป
รอง ผบช.น.ยังระบุว่า จะมีการปรับรูปแบบการเข้าควบคุมสถานการณ์การจัดกำลังของตำรวจควบคุมฝูงชนในแต่ละวันแตกต่างกันไปตามการข่าวที่ได้รับ และสถานการณ์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการควบคุมสถานการณ์มากที่สุด แต่ก็จะพยายามให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด
ประสานกรุงเทพฯร่วมป้องกันผลกระทบแฟลตดินแดง
ส่วนกรณีชาวแฟลตดินแดงร้องเรียนถึงผลกระทบจากการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า การเคหะได้ประสานกับกรุงเทพฯ ขอสนับสนุนติดตั้งประตูเหล็ก หรือตาข่ายกั้นสูง เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของเข้าไปด้านใน หรือได้รับผลกระทบจากกระสุนยางและแก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อีกทั้งยังเป็นการกันพื้นที่แยกผู้ชุมนุมออกจากชาวบ้านภายในแฟลตดินแดง อีกครั้งยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติงาน
ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง ตร.จ่อยิงกระสุนยาง
ขณะที่กรณีของตำรวจควบคุมฝูงชน นายหนึ่งจ่อยิงกระสุนยางใส่วัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่ปรากฏคลิปในโลกออนไลน์ พล.ต.ต.ปิยะ ระบุ มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
เบื้องต้นทราบแล้วว่าตำรวจนายดังกล่าวคือใคร พร้อมทั้งมีการเรียกเข้ามาพูดคุยสอบถามข้อเท็จจริงแล้วในระดับหนึ่ง แต่ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานจึงจะสามารถระบุได้ว่า เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือเข้าข่ายมีความผิดทางวินัยหรือ อาญาหรือไม่ โดยในระหว่างนี้ตำรวจนายดังกล่าวยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ ชี้แจงถึงการจัดการจราจรในช่วงที่มีการชุมนุมโดยเฉพาะบริเวณถนนดินแดงและวิภาวดีรังสิตของกลุ่มทะลุแก๊ซ ที่มักเกิดเหตุว่า มีประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ว่า การปิดการจราจรในแนวปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ เป็นไปตามการพิจารณาของฝ่ายความมั่นคง
แต่ตามหลักปฏิบัติการจราจร เบื้องต้นในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการจราจรของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละจุดพบว่า ได้มีการนำแผงเหล็กมากั้นปิดการจราจรแล้วและให้ตำรวจจราจรยืนประจำการในแต่ละจุดแต่เมื่อการชุมนุมรุนแรงขึ้นพบว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่และได้นำแผงเหล็กที่นำมากั้นไว้ออก จนทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดและขับรถเข้าไปในพื้นที่ โดยจะพยายามเน้นการประชาสัมพันธ์และขอให้ประชาชนติดตามข่าวการชุมนุมอย่างใกล้ชิดและหลีกเลี่ยงการใช้ทางในพื้นที่ที่มีการขุมนุม
เตรียมออกหมายเรียก 118 หมาย - ดำเนินคดีแล้ว 90 คดี
สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมตลอดช่วงที่ผ่านมา นับจาก ก.ค. จนถึงปัจจุบันดำเนินคดีทั้งสิ้น 90 คดี มีผู้ต้องหาที่จะถูกดำเนินคดี 481 คน จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย 224 คน คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนบช.น.จะออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมและกระทำผิดต่างๆ อีก 118 หมาย แบ่งเป็นกลุ่มแกนนำทั้งหมด 16 หมาย กลุ่มผู้ชุมนุมอื่น ๆ 102 หมาย
หาเบาะแสมือยิงเด็ก 14
ขณะที่ความคืบหน้าที่คดีเด็กอายุ 14 ปี ถูกยิงนายชุณหะวัน พ่อของเด็กชายวัย 14 ปี เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีความว่า เมื่อวานที่ผ่านมาตัวเองและลูกชายลงพื้นที่พร้อมตำรวจสืบสวน เพื่อพิสูจน์ทราบจุดเกิดเหตุ โดยตำรวจเทียบเคียงจากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางเกิดเหตุ บนถนนประชาสงเคราะห์และพบข้อมูลภาพระบุเวลาช่วงค่ำในวันที่ 16 ส.ค.ซึ่งเวลาใกล้ช่วงเกิดเหตุที่ลูกชายถูกยิง ซึ่งจุดเกิดเหตุคือ ปากซอย ประชาสงเคราะห์ 14 ช่วงโค้งหน้าปากซอย ชายต้องสงสัยมีลักษณะผอม สูงในมือถือปืน ชัดเจน โดยลูกชายยืนยันว่า มีลักษณะคล้ายผู้ก่อเหตุ
รอง ผบช.น.เปิดเผยว่า ตำรวจสืบสวนมีข้อมูลผู้ต้องสงสัยแล้ว และอยู่ระหว่างสืบสวนติดตามเพื่อพิสูจน์ตัวตน จากนั้นจะรวบรวมพยานหยักฐานยื่นต่อศาลเพื่อขอออกหมายจับผู้ก่อเหตุ มาดำเนินคดี