วันนี้ (15 ก.ย.2564) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยถึงการตรวจสอบการลงทุนของเยาวชน อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาชิงทองกลางห้างสรรพสินค้าที่ จ.นนทบุรี ว่า ผลการตรวจสอบขณะนี้ทราบตัวบุคคลต้องสงสัยก่อเหตุฉ้อโกงเงินของเยาวชนหญิงคนดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ พบว่าอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง 1 คน ซึ่งบุคคลนี้พบเป็นบุคคลเฝ้าระวังมีประวัติ คดีฉ้อโกงจำนวนมาก ส่วนอีก 2 คน อยู่ในภาคเหนือและภาคใต้ โดยทั้ง 3 คนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน แต่อยู่ในวงแชร์ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงเยาวชนหญิง 17 ปี
โดยการตรวจสอบเชิงลึก พบว่าเยาวชนหญิง 17 ปี ได้นำเงิน 50,000 บาท ไปลงทุนในบ้านแชร์ ชื่อ สุชาดา ซึ่งเปิดวงแชร์ออมเงินผ่าน แอปพลิเคชันอินสตราแกรม ประมาณ 1 ปีมาแล้ว ที่ผ่านมาได้ผลตอบแทนกลับมา 14,000 บาท ก่อนที่บ้านแชร์จะปิดตัวหายไป
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เยาวชนหญิงอายุ 17 ปี มองหาช่องทางที่จะได้เงินกลับขึ้นมา จึงไปลงทุนในบ้านแชร์อีกราย ชื่อบ้านออมเงิน บาย ออมสิน ซึ่งเปิดวงแชร์ในอินสตราแกรมเช่นกัน ลงทุนไป 7,000 บาท ซึ่งก็โดนโกงไปซ้ำอีก จึงเป็นสาเหตุให้ก่อเหตุชิงทอง
พล.ต.ท.กรไชย กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนที่เยาวชนหญิง อายุ 17 ปี ก่อเหตุชิงทองเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายต้องว่าไปตามกฎหมายโดยมีโทษทางอาญา แต่ในส่วนของการถูกโกงเงินก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องสืบสวนตรวจสอบและปราบปรามผู้ที่หลอกลวงฉ้อโกงเงินผู้อื่นและเยาวชนหญิง 17 ปี ก็ถือว่า คือผู้เสียหายที่ถูกโกงเงิน และได้ร้องเรียนเข้ามาแล้ว เบื้องต้น เรียกมารดาและตัวเยาวชนหญิง 17 ปี เข้ามาสอบปากคำแล้ว
ส่วนการตรวจสอบบ้านแชร์ออมเงินทั้ง 2 ราย พบว่าปิดอินสตราแกรมไปแล้ว และไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงกัน รวมถึงยังไม่มีประชาชนผู้ลงทุนรายอื่นเข้าใน 2 บ้านนี้ เข้ามาร้องเรียนในฐานะผู้เสียหาย
นอกจากนี้ พล.ต.ท.กรไชย ได้ย้ำเตือนประชาชนผู้ที่มีความสนใจในการลงทุนแชร์ออมเงิน หรือการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศต่างๆ ที่กำลังนิยมว่า ให้ตรวจสอบสถาบัน หรือแหล่งที่มาผู้ชักชวนให้รอบคอบ และการให้ผลตอบแทนสูง เช่น ลงทุน 1,000 บาท ให้กำไร 900 บาท ไม่มีอยู่จริง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลให้ประกันตัว นร.หญิง ชิงทองในห้างนนทบุรี
บทเรียนแชร์ออนไลน์ สู่แรงจูงใจชิงทอง
ตร.แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ นร.หญิงชิงทองในห้างฯ เตรียมส่งสถานพินิจ